วันนี้ (1 ธ.ค.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เดินทางมาเป็นประธานการเปิดตัวโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ปี 2562/2563 ครั้งที่ 1 ที่จังหวัดเชียงใหม่
นายจุรินทร์ กล่าวว่า โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังปี 2562/2563 ที่มีการโอนเงินส่วนต่างครั้งแรกในวันนี้ เป็นการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังตามนโยบายรัฐบาล เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกร ในกรณีราคามันสำปะหลังตกต่ำ เพื่อเพิ่มรายได้ และสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกร หากไม่มีโครงการประกันรายได้ เกษตรกรจะมีรายได้เพียงช่องทางเดียว แต่หากมีโครงการประกันรายได้ เกษตรกรจะมีรายได้อีกช่องทางหนึ่ง จากเงินส่วนต่างระหว่างราคาที่ประกัน กับราคาตลาดอ้างอิง
โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังนี้ จะประกันรายได้หัวมันสำปะหลังสด เชื้อแป้ง 25% ในพื้นที่เพาะปลูกมันสำปะหลังทั่วประเทศ ณ หัวมันสดเชื้อแป้ง 25% กก.ละ 2.50 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 100 ตัน โดยคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ได้มีมติเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เห็นชอบราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง กก.ละ 2.27 บาท โดยมีส่วนต่างราคาที่จะต้องชดเชยให้เกษตรกร กก.ละ 0.23 บาท ซึ่งเกษตรกรจะสามารถได้รับเงินส่วนต่างชดเชยมากที่สุด 23,000 บาท ต่อครัวเรือน ทั้งนี้ มีเกษตรกรที่คาดว่าจะได้รับสิทธิ์ในครั้งนี้ประมาณ 40,000 กว่าครัวเรือน
นายจุรินทร์ เปิดเผยด้วยว่า นอกจากมาตรการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังแล้ว รัฐบาลยังดำเนินมาตรการคู่ขนานอื่นๆ เพื่อรักษาเสถียรภาพราคามันสำปะหลังแบบยั่งยืน โดยจะพยายามเพิ่มการใช้มันสำปะหลังในประเทศ เช่น การส่งเสริมให้นำมันไปทำพลาสติกชีวภาพ
ส่วนในช่วงที่ราคามันสำปะหลังตกต่ำ รัฐบาลมีมาตรการเสริมในการชะลอการขาย โดยคณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้ ธกส. ปล่อยสินเชื่อเกษตรกรกู้ดอกเบี้ยต่ำรายละไม่เกิน 230,000 บาท วงเงิน 1,500 ล้านบาท โดยรัฐจะช่วยจ่ายภาระดอกเบี้ย 3% เพื่อให้เกษตรกรเก็บผลผลิตหัวมันไว้ และปล่อยขายเมื่อราคามันเพิ่มสูงขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการให้การซื้อขายมันสำปะหลังที่ลานมันมีความยุติธรรม เนื่องจากการนำมันไปขายมักจะมักเศษดินติดไปด้วย จึงมักจะมีข้อพิพาทระหว่างลานมันกับเกษตรกรถึงน้ำหนักของดิน ต่อไปนี้จะให้มีการติดตั้งเครื่องร่อนมัน โดยกระทรวงพาณิชย์จะช่วยเรื่องเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำและชดเชยภาระดอกเบี้ย รวมทั้งการให้ใช้เครื่องชั่งและเครื่องวัดเชื้อแป้งที่ผ่านมาตรฐานของกรมการค้าภายใน
รัฐบาลยังได้อนุมัติงบประมาณ 248 ล้านบาท ในการเร่งกำจัดโรคใบด่างที่เกิดจากแมลงหวี่ขาว และการจ่ายเงินชดเชยให้กับเกษตรกรในการทำลายหัวมันที่ติดโรค โดยครอบคลุมทั้งแปลงที่มีกรรมสิทธิ์และที่ไม่มีกรรมสิทธิ์ รวมทั้งการควบคุมการเคลื่อนย้ายหัวมัน เพื่อขจัดโรคใบด่างให้หายไปทั้งหมด
นอกจากการเริ่มโอนเงินส่วนต่างมันสำปะหลังเป็นครั้งแรกแล้ว วันนี้ยังมีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ระหว่างสมาคมภาคเอกชน 4 สมาคม ได้แก่ สมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย สมาคมแป้งมันสำปะหลังไทย สมาคมโรงงานผลิตแป้งมันสำปะหลังไทย และสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันลำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อร่วมมือกันไม่ให้เกิดการตัดราคาสำหรับการส่งออกมันไปยังต่างประเทศ เพื่อไม่ให้ราคามันตกต่ำ และส่งผลมายังเกษตรกร โดยจะร่วมกันทำราคาส่งออกแนะนำ เพื่อให้เกษตรกรสามารถขายหัวมันได้ที่ราคาที่ดีขึ้น