ค่ายรถยนต์รายใหญ่ของเกาหลีใต้ “ฮุนได มอเตอร์” ลงนามในข้อตกลงมูลค่า 1,500 ล้านดอลลาร์ สร้างโรงงานผลิตรถยนต์ในอินโดนีเซีย ที่จะกลายเป็นโรงงานแห่งแรกของบริษัทในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภูมิภาคที่บริษัทรถยนต์จากญี่ปุ่นเป็นเจ้าตลาดอยู่
ข้อตกลงดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่รัฐบาลเกาหลีใต้ กำลังหาทางที่จะสร้างความหลากหลายให้กับเศรษฐกิจของประเทศ ที่เน้นพึ่งพาการค้าเป็นหลัก ให้มีทางเลือกอื่นๆ นอกจากคู่ค้าดั้งเดิมอย่างจีน และสหรัฐ
แถลงการณ์ของฮุนได ระบุว่า อินโดนีเซียเป็นตลาดรถยนต์ขนาดใหญ่สุดในภูมิภาคนี้ และข้อตกลงมูลค่า 1,500 ล้านดอลลาร์นี้ ก็มีเป้าหมายเพื่อต่อสู้กับความต้องการที่ชะลอตัวลงในตลาดรถยนต์โลก และส่งเสริมการเติบโตในอนาคตของบริษัท
โรงงานแห่งใหม่นี้ จะสร้างขึ้นที่เมืองเบกาซี ทางตะวันออกของกรุงจาการ์ตา และมีแผนที่จะเริ่มต้นสายการผลิตราวปี 2564 ด้วยกำลังผลิตรถยนต์ปีละ 250,000 คัน
ฮุนได ซึ่งเป็นค่ายรถยนต์รายใหญ่สุดของเกาหลีใต้ บอกด้วยว่า การสร้างโรงงานในอินโดนีเซีย ก็เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเก็บภาษีนำเข้าที่มีอัตราตั้งแต่ 5% ไปจนถึง 80% สำหรับการนำเข้ารถยนต์ในภูมิภาคอาเซียน
ข้อมูลจากแอลเอ็มซี ออโตโมทีฟ บริษัทด้านการวิจัย แสดงให้เห็นว่าปัจจุบัน ฮุนไดถือว่าอยู่ล้าหลังจากบรรดาคู่แข่งสัญชาติญี่ปุ่นในภูมิภาคนี้อย่างมาก โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทมียอดขายในอาเซียนที่ 122,883 คัน เทียบกับค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น อย่าง โตโยต้าที่มียอดขายอยู่ที่ 854,032 คัน และเรโนลต์ นิสสัน มิตซูบิชิ ที่ 351,267 คัน
การเคลื่อนไหวล่าสุดของฮุนได ยังสอดคล้องกับ “นโยบายตอนใต้ใหม่” ของประธานาธิบดีมูน แจ อิน ผู้นำเกาหลีใต้ ที่กำลังหาทางกระชับสัมพันธ์เศรษฐกิจกับประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในความพยายามที่จะลดการพึ่งพาจีน และสหรัฐ
