การแข่งขันกีฬาซีเกมส์หลายครั้งหลายครามักโดนค่อนขอดว่าเป็น “ซีโกง” ซึ่งหนนี้ที่ประเทศฟิลิปปินส์เป็นเจ้าภาพเริ่มมีกลิ่นตุๆตั้งแต่การแข่งขันยังไม่เริ่ม
เอาภาพรวมซึ่งมองว่าเป็นความไม่พร้อมมากกว่ากับเหตุการณ์เจ้าหน้าที่โอลิมปิกไทยที่เดินทางมาถึงสนามบิน ทว่าทางเจ้าภาพกลับไม่จัดรถรับส่ง พาคณะเจ้าหน้าที่ ซึ่งมีกำหนดเดินทางต่อไปส่งยังเมืองคลาร์ก ซิตี้ ที่อยู่ห่างจากสนามบินออกไปราว 100 กม. โดยให้เหตุผลว่ารถรับส่งไม่พร้อมทำให้ต้องหาที่พักนอนที่มะนิลา 1 คืน
นอกจากนี้ทีมฟุตบอลชายเมียนมาต้องนั่งเบียดกันแทบทั้งทีมในรถสองแถวติดแอร์ที่มารับจากสนามบินมะนิลาเพื่อไปยังที่พักสร้างความขุ่นเคืองให้ผู้เป็นโค้ชพอสมควร
แต่ที่ดูสาหัสที่สุดคือทีมฟุตบอลชายทีมชาติไทยที่โดนต้อนรับแบบไม่น่าจดจำตั้งแต่ย่างก้าวถึงดินแดนตากาล็อก เมื่อช่วงสายวันเสาร์ที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา พวกเขาเจออุปสรรคมากมายตั้งแต่สนามบิน, โรงแรมที่พัก, อาหารการกิน รวมทั้ง สนามซ้อม
วันนี้เราขอไล่เรียงไทม์ไลน์เรื่องที่ไม่น่าจดจำที่ทัพ”ช้างศึก” ต้องเผชิญตั้งแต่เดินทางถึงฟิลิปปินส์ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
1.นักเตะทีมชาติไทยเดินทางถึงสนามบินกรุงมะนิลา ช่วงบ่ายของวันเสาร์ที่ 23 พ.ย.แต่ต้องรอเอกสารนักกีฬาถึง 2 ชั่วโมงเต็มจึงจะมุ่งสู่ที่พักได้ ซึ่งปกติแล้วไม่ต้องรอนานขนาดนี้
2.เมื่อถึงที่พักในช่วงเย็นทางโรงแรมแจ้งว่า ห้องพักมีจำนวนจำกัด ไม่สามารถจัดให้ตามที่ขอได้ จึงขอความอนุเคราะห์ให้นักเตะนอนห้องละ 3 คน จากมาตรฐานที่ควรจะพักห้องละ 2 คนเ แต่ทีมไทยไม่ยอมสุดท้ายเคลียร์ปัญหาได้ลงตัวได้นอนห้องละ 2 คนตามปกติ
3.เจ้าภาพจัดสนามซ้อมให้ทีมชาติไทย อยู่ห่างจากโรงแรมที่พัก เป็นระยะทาง 36 กิโลเมตร ต้องใช้เวลาเดินทางเกินกว่า 2 ชั่วโมงเนื่องจากการจราจรติดขัดอย่างหนักในมะนิลา ทำให้ อากิระ นิชิโนะ สั่งยกเลิกแผนซ้อมครั้งแรกของทีมตามโปรแกรมที่เจ้าภาพกำหนด โดยให้นักเตะเดินเล่นผ่อนคลายบริเวณรอบโรงแรมที่พักแทน
4.วันอาทิตย์ ที่ 24 พ.ย.ทางโรงแรมแจ้งว่า มีน้ำดื่มให้บริการแบบจำกัด แบ่งให้ได้ห้องพักละ 4 ขวดต่อวันเท่านั้น ทำให้นายกส.บอลไทย ต้องสั่งซื้อน้ำดื่มมาให้นักเตะเป็นการด่วน
5.นักเตะไทยกินอาหาร เมนูเดียวกับวันเสาร์ โดยทางโรงแรมแจ้งว่ามีอาหารจัดไว้เพียงเท่านี้ ทำให้นายกส.บอลไทยต้องสั่งอาหารไทยมาให้นักฟุตบอลทาน
6.ช่วงบ่ายเจอการจราจรที่ติดขัดทำให้เดินทางถึงสนามซ้อมที่ทางเจ้าภาพจัดไว้ช้ากว่ากำหนด 20 นาทีทำให้เวลาซ้อมลงลงตามไปด้วย
7.สนามซ้อมที่ทางเจ้าภาพจัดให้กลายเป็นสนามที่อยู่ในช่วงปรับปรุง ห้องน้ำไม่พร้อมให้ใช้บริการ ทำให้นักเตะและสตาฟฟ์โค้ช ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าบนรถบัส สุดท้ายทีมไทยตัดสินใจเช่าสนามซ้อมเองในการซ้อมของวันที่ 25 พ.ย.
8.ในขณะที่ทีมไทยเจอปัญหามากมายในการลงซ้อมแต่เวียดนาม กับ อินโดนีเซีย สองทีมคู่แข่งกลุ่มเดียวกับไทยกลับได้ลงซ้อมที่รีซาล เมโมเรียล สเตเดียม ซึ่งเป็นสนามแข่งขัน
ทั้งหมดนี้คือไทม์ไลน์อุปสรรคที่ทัพช้างศึกต้องเผชิญก่อนลงสนามนัดแรกกับ อินโดนีเซีย ในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2562 เวลา 15.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ซึ่งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าแม้เจอความยากลำบากแค่ไหนแต่พวกเขาพร้อมสู้และจะไม่เอามาเป็นข้ออ้าง
สินทวีชัย หทัยรัตนกุล อดีตผู้รักษาประตูทีมชาติไทยที่เคยมีประสบการณ์คว้าแชมป์ซีเกมส์ ครั้งที่ 23 ที่ประเทศฟิลิปปินส์เป็นเจ้าภาพ แต่มาคราวนี้เขามาในฐานะผู้อำนวยการทีมชาติไทยยังยอมรับว่ามีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงคราวนี้รับมือปัญหาได้แย่
“อย่างที่เห็นกันว่าความพร้อมของฟิลิปปินส์เจ้าภาพนั้นไม่พร้อมในหลายๆ ด้าน อาจจะด้วยเรื่องงบประมาณที่ไม่เพียงพอหรืออย่างไร แต่มันคือปัญหาที่เป็นผลกระทบต่อทุกทีม ทุกชาติ ไม่ใช่แค่ทีมฟุตบอลไทยอย่างเดียว”
“ก่อนเดินทางมาเราได้ส่งทีมงานมาเตรียมความพร้อมแล้ว ทำการบ้านมาแล้ว แต่สุดท้ายยังเจอกับปัญหาหน้างานให้ต้องแก้ไขกันไปแบบวันต่อวันอยู่ดี อย่างครั้งนี้พยายามหาสนามซ้อมให้ใกล้กับที่พัก เนื่องจากสนามเดิมนั้นเดินทางนานเกินไป มันไม่คุ้มต่อสภาพร่างกายของนักกีฬา”
“ถ้าหากเทียบกับเมื่อ 14 ปีที่แล้ว ถือว่าแตกต่างกันมากเพราะหนนั้นจัดการแข่งขันที่เมืองบาโคลอต ซึ่งเป็นเมืองกีฬา ไม่ค่อยแออัดเหมือนกับกรุงมะนิลา ไม่มีปัญหาเรื่องสนามซ้อม สนามแข่ง หรือการจราจร ครั้งนี้ถือว่าเจอปัญหาเยอะมากทีเดียว ส่วนตัวยังมองว่ามันเป็นปัญหาที่ต้องเข้าใจและประยุกต์การทำงานกันไป ซึ่งถึงขณะนี้ถือว่าเราทำงานแก้ไขไปได้ด้วยดี”
ต้องรอดูว่าช่วงแรกของซีเกมส์ที่ฟิลิปปินส์ซึ่งมีนักกีฬาเดินทางมาเป็นส่วนน้อยยังเจอปัญหามากมายก่ายกองขนาดนี้ เมื่อถึงเวลาทัพนักกีฬาชุดใหญ่เดินทางมาพร้อมๆกัน เจ้าภาพจะเอาปัญหาที่เกิดไปปรับปรุงแก้ไขเพื่อรับมือได้ดีขนาดไหน
