“กัลฟ์” ปรับทิศ เปิดเด็กเยาวชนออกแบบโครงการเพื่อสังคมเอง หนุนเครือข่ายประธานนักเรียนฯรวมกลุ่มพัฒนาทักษะความเป็นผู้นำ-ทีมเวิร์ก และกระตุ้นจิตสำนึกสิ่งแวดล้อม
“ฮิป ! ฮิป ! ฮิป ! ฮิปโป โอ้โห ตัวมันใหญ่ มันเดินอุ้ยอ้าย มันเดินอุ้ยอ้าย ลัลลัลล้า ลัลลัลลา “ เพลงประกอบกิจกรรมที่เด็กๆเล่นด้วยกันอย่างสนุกสนาน หากดูเผินๆคิดว่าพวกเขาคงอยู่โรงเรียนเดียวกันมาเนิ่นนานหลายปี แต่ที่ไหนได้ 30 ชีวิตมาจากหลากหลายโรงเรียนในกรุงเทพและปริมณฑลและต่างชั้นเรียน
พวกเขารวมตัวกันเองในนาม “กลุ่มเครือข่ายประธานนักเรียนกรุงเทพมหานครและปริมณฑล” (President of Student Council for Bangkok & Metropolitan Area Social Network :PSCN ) นับเป็นรุ่นที่ 9 เข้าไปแล้ว โดยเครือข่ายนี้ขับเคลื่อนโดยเด็กๆ เพื่อทำงานจิตอาสาในด้านต่างๆ ผ่านสายตาโรงเรียน และผู้ปกครอง ที่คอยสนับสนุนอยู่ห่างๆด้วยความชื่นชมและไว้วางใจ
“น้องเฟรม” ชนาพร เพิ่มดี นักเรียนมัธยมปีที่ 6 โรงเรียนสตรีมหาพฤฒาราม ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เล่าว่า เครือข่าย PSCN แบ่งการทำงานเป็นฝ่ายต่างๆ อาทิ ฝ่ายประสานงาน ฝ่ายโครงการ ฝ่ายสวัสดิการ เป็นต้น และทำกิจกรรมด้วยกันต่อเนื่องทุกปี ทั้งงานจิตอาสา เช่น ทำตุ๊กตาทำมือ มอบให้เด็กๆในชุมชนต่างๆในกรุงเทพและปริมณฑล รวมถึงกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม ไปปรับภูมิทัศน์ ทาสีโรงเรียน ไม่นับรวมงานค่ายที่เราจะจัดประมาณ 4-5 ค่าย อย่างน้อยเราต้องมีค่ายใหญ่ 1 ครั้งประจำปี เพราะรุ่นใหม่จะต้องมาแทนรุ่นเก่าที่เข้ามหาวิทยาลัย เราทำค่าย เพื่อให้มาทำความรู้จักกัน
สำหรับเงินทองที่มาใช้ในการทำกิจกรรมนั้น น้องเฟรม บอกว่า บางทีเราก็รวมตัวกันออกไปขอรับบริจาคตามที่ต่างๆมาใช้ในการทำกิจกรรมของเรา เช่น ตามสวนสาธารณะ ในวันหนึ่งขณะที่เด็กกลุ่มนี้ กำลังถือกล่องเชิญชวนพี่ป้าน้าอาบริจาค สร้างความประทับใจให้ผู้บริหารอย่างสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ที่มาเห็นโดยบังเอิญขณะไปออกกำลังกายที่สวนลุมพินีในวันนั้น
ไม่นานโครงการ “Gulf Growth Future” ก็เกิดขึ้น ครั้งแรกในปี 2561 โครงการนี้อาจดูเหมือนให้เด็กๆมารวมตัวทำกิจกรรมต่างๆ และศึกษาดูงานเหมือนโครงการอื่นๆ แต่จริงๆแล้วแตกต่าง เพราะโครงการทั้งหมดออกแบบโดยเด็กๆ ตั้งแต่การทำกิจกรรม สถานที่ศึกษาดูงาน แม้แต่การหาสถานที่พัก การประสานงาน รวมไปถึงการสำรวจพื้นที่ก่อนงานจริง โดยบริษัทฯเป็นเพียงผู้อำนวยความสะดวก
การปล่อยให้เด็กคิดเอง ก็เพื่อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาทักษะความเป็นผู้นำ และการทำงานร่วมกันเป็นทีม ทำให้โครงการนี้จัดต่อเนื่องในปี 2562 เมื่อเดือนตุลาคม ที่จังหวัดระยอง
สำหรับรูปแบบการทำกิจกรรม ที่เด็กๆออกแบบด้วยตัวเองในปีนี้ มีทั้งการเรียนรู้ทำผ้าเช็ดหน้าบาติก และมัดย้อม รวมถึงเก็บขยะริมชายหาดแม่รำพึง จังหวัดระยอง ผสานกิจกรรมประกวดชุดแฟนซีจากขยะ เรียนรู้ประโยชน์จากขยะ
โดยบริษัท กัลฟ์ คอยเติมเต็ม เช่น กิจกรรม “Talk Show” เพื่อให้กำลังใจ และสร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตให้กับเด็กเยาวชน สอดแทรกด้วยธรรมะที่เข้าใจง่ายโดยศิลปิน ได้แก่ นภ พรชำนิ อุ๋ย บุดดาเบลส และโจ ทศกัณฑ์ พวกเข้ามาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ พร้อมกับชื่นชมน้องๆที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้อย่างจริงใจ นอกจากนี้บริษัท กัลฟ์ ยังพาน้องๆไปเรียนรู้มาตรการลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมของโรงไฟฟ้ากัลฟ์ตาสิทธิ์ 3-4 จังหวัดระยองด้วย
“น้องวิน” กิตติพงศ์ สุนทรวัฒนพงศ์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนประธานเครือข่ายฯ เล่าว่า เรารวมตัวเพื่อทำกิจกรรมพัฒนาสังคมเป็นประจำ โดยเฉพาะเรื่องสิ่งแวดล้อม ซึ่งผมและเพื่อนๆมีความห่วงในเรื่องนี้มาก อยากให้ทุกคนมีความตระหนักถึงสิ่งแวดล้อม เพราะว่าธรรมชาติ จะอยู่กับเราตลอดไป “ถ้าเกิดว่าวันหนึ่งเกิดภัยธรรมชาติ ที่มาจากฝีมือของมนุษย์ นั่นก็เพราะเป็นการที่เราทำตัวเองนะครับ”
หลังจากจบโครงการแล้ว เด็กๆกลุ่มนี้ยังคงทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เพราะเขามีภารกิจใหญ่ในการส่งต่อจิตสำนึกสาธารณะ และสิ่งแวดล้อมให้กับรุ่นน้องๆ ขณะเดียวกันการรวมตัวของพวกเขาทำกิจกรรมต่างๆ ทำให้เขารักกัน คอยดูแลกัน ใครมีปัญหาอะไรก็คอยปลอบใจ และให้กำลังใจกัน เดินข้างๆกันไปเป็นกลุ่มใหญ่ เป็นทรัพยากรอันมีค่าของประเทศ
น้องเฟรม ย้ำกับเราว่า พอเราทำกิจกรรมร่วมกันบ่อยๆ เราก็ปรับตัวเข้าหากัน หลักในการทำงานของเรา คือ ยอมรับฟังกัน ไม่เช่นนั้นกิจกรรมของเราก็ไปไม่รอด เราเลยบอกได้ว่า กิจกรรมสาธารณะประโยชน์แบบนี้ นอกจากได้ประโยชน์ต่อส่วนรวมแล้ว ยังทำให้เรากันมากขึ้นด้วย
ทางด้านบริษัท กัลฟ์ ในฐานะผู้สนับสนุน นายธนญ ตันติสุนทร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานกิจการองค์กร ระบุว่า เราเห็นความสำคัญของกลุ่มเยาวชน ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษา ซึ่งเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่กำลังจะก้าวเข้าสู่การศึกษาในระดับอุดมศึกษา เป็นช่วงวัยที่เริ่มเผชิญกับความซับซ้อนของสังคมในหลากหลายมิติ
จึงจัดตั้งโครงการ Gulf Growth Future ขึ้นมาเมื่อปี 2561 โดยเชื่อว่าจะช่วยพัฒนาศักยภาพ ของเด็กๆให้มีทักษะการคิดอย่างมีระบบ เน้นการทำงานเป็นทีม พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ และภาวะผู้นำ เรียนรู้ความสัมพันธ์ของคนในสังคมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล และคุณธรรม พร้อมเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อม และพลังงานไปด้วย
