ผู้สมัครที่ผู้สนับสนุนการเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง คว้าชัยชนะอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งสภาท้องถิ่น ที่มีผู้ออกมาใช้สิทธิมากเป็นประวัติการณ์ เมื่อวานนี้ (24 พ.ย.) ถือเป็นชัยชนะในเชิงสัญลักษณ์ครั้งสำคัญของกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านคณะบริหารเกาะฮ่องกง หลังการประท้วงที่ยืดเยื้อมานาน 6 เดือน
การเลือกตั้งสภาท้องถิ่นครั้งล่าสุดนี้ นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ฮ่องกง ที่ผู้สมัครฝั่งประชาธิปไตยสามารถคว้าที่นั่งมาครองได้มากกกว่าครึ่งหนึ่งของที่นั่งในสภาท้องถิ่นจำนวน 452 ที่นั่ง โดยสภาท้องถิ่นฮ่องกงนั้น มีหน้าที่บริหารจัดการการใช้จ่าย และตัดสินเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตประจำวันของประชาชนจำนวนหนึ่ง อาทิ การขนส่ง ทั้งยังถือเป็นฐานรากหญ้าที่สำคัญ ต่อการสร้างอิทธิพลทางการเมืองในฮ่องกงด้วย
ผู้ชนะบางรายระบุว่า ผลเลือกตั้งที่ออกมา เป็นเหมือนกับการลงคะแนนเสียงสนับสนุนการประท้วงที่เกิดขึ้น และอาจเพิ่มแรงกดดันต่อนางแคร์รี หลำ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหารเกาะฮ่องกง ในช่วงเวลาที่ฮ่องกงตกอยู่ท่ามกลางวิกฤติการเมืองครั้งเลวร้ายสุดในรอบหลายสิบปี
“นี่คือพลังของประชาธิปไตย นี่เป็นสึนามิประชาธิปไตย” ทอมมี่ เจิ้ง กล่าว โดยเจิ้งเป็นอดีตแกนนำการประท้วงของกลุ่มนักศึกษา และคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งที่เขตเหยียนหลง ใกล้กับชายแดนจีนมาได้
ทางด้านนายบาร์นาบัส ฟุง ผู้อำนวยการกิจการเลือกตั้งฮ่องกง เปิดเผยว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีประชาชนออกมาใช้สิทธิอย่างน้อย 2.94 ล้านคน หรือคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 71% ของผู้มีสิทธิออกเสียงทั้งหมด ซึ่งดูเหมือนว่า จำนวนผู้ใช้สิทธิที่มากเป็นประวัติการณ์ได้รับแรงกระตุ้นจากเหตุความวุ่นวายที่เกิดขึ้นมานานหลายเดือน โดยในการเลือกตั้งสภาท้องถิ่นครั้งล่าสุดเมื่อ 4 ปีที่แล้ว มีผู้ออกมาใช้สิทธิราว 1.47 ล้านคน
ขณะที่นายจิมมี แชม ผู้สมัครจากกลุ่มแนวหน้าเพื่อสิทธิมนุษยชนพลเรือน ซึ่งเป็นกลุ่มที่จัดการเดินขบวนประท้วงในบางครั้ง ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้เช่นกัน และว่าผลเลือกตั้งที่ออกมา ควรเป็นการส่งสัญญาณว่า คณะบริหารเกาะฮ่องกงควรฟังเสียงของผู้ประท้วงได้เล้ว
ทางด้านนักการเมืองฝั่งสนับสนุนรัฐบาลจีน ที่พ่ายแพ้การเลือกตั้งครั้งนี้ ระบุว่า การพ่ายแพ้ที่เกิดขึ้นไม่ได้มีสาเหตุมาจากผลงานทางการเมือง แต่เป็นเพราะความรู้สึกทางการเมือง
