Economics

‘ดีเซล B10’ ดัน ‘ปาล์ม’ ขยับขึ้น 4 บาท/กก. เพิ่มรายได้เกษตรกร

รมว.พลังงาน เดินหน้าหนุนใช้น้ำมันดีเซล B10 เผยช่วยดันราคาปาล์มน้ำมันในตลาดขยับขึ้นมากกว่า 4 บาท/กิโลกรัมแล้ว คาดสร้างเสถียรภาพน้ำมันปาล์ม หลุดกับดักราคา

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยระหว่างการนำนำคณะลงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีว่า จะเดินหน้าส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซล B10 น้ำมันบนดินเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งกระทรวงพลังงานดีเดย์ประกาศเป็นน้ำมันดีเซลพื้นฐานสำหรับประเทศตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป

ปาล์ม

ทั้งนี้ มาตรการส่งเสริมน้ำมันดีเซล B10 เป็นหนึ่งในกลไกด้านพลังงานช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้ประชาชนและชุมชน เพราะเป็นการส่งเสริมเชื้อเพลิงชีวภาพจากไบโอดีเซลที่ผลิตจากปาล์มน้ำมันมาผสมในเนื้อน้ำมันดีเซล เป็นการนำจุดแข็งด้านผลผลิตทางการเกษตรของไทยมาช่วยสร้างเสถียรภาพราคาให้กับเกษตรกร ทำให้ปาล์มน้ำมันไม่ติดกับปัญหาด้านราคาเหมือนที่ผ่านมา

นอกจากนี้ยังพบว่า จากการส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซล B10 ช่วยให้ราคาปาล์มน้ำมันในตลาดขยับขึ้นมากกว่า 4 บาท/กิโลกรัมแล้ว และหากผลักดันการใช้ B10 สำเร็จจะทำให้การใช้ไบโอดีเซลเพิ่มขึ้นประมาณ 2.1 ล้านลิตรต่อวัน หรือเพิ่มประมาณ 40% จากปัจจุบัน

สนธิรัตน์
สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์

ปัจจุบัน มีปริมาณการใช้ไบโอดีเซลอยู่ที่ 5.15 ล้านลิตรต่อวัน คาดว่าจะเพิ่มเป็นประมาณ 7 ล้านลิตรต่อวันในปี 2563 โดยภาคพลังงานจะช่วยดูดซับน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ได้ประมาณ 2 – 2.2 ล้านตันต่อปี และยังเกิดผลพลอยได้ช่วยลดมลภาวะทางอากาศจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) อีกด้วย

ขณะเดียวกัน รมว.พลังงานและคณะฯ ยังได้เยี่ยมชมกระบวนการผลิตไบโอดีเซล (B100) ของบริษัท นิว ไบโอดีเซล จำกัด จ.สุราษฎร์ธานี ที่มุ่งผลิตไบโอดีเซลเป็นพลังงานทดแทนลดการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงจากต่างประเทศ โดยสามารถผลิตน้ำมันไบโอดีเซลได้รวมวันละ 1,000 ตัน หรือ 1.15 ล้านลิตรต่อวัน ขณะที่การผลิตน้ำมันปาล์มเพื่อบริโภคสามารถผลิตน้ำมันปาล์มโอเลอีนได้วันละ 300 ตัน

สำหรับกลุ่มลูกค้าปัจจุบันของบริษัทฯ คือผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 ซึ่งจะมีคลังน้ำมันอยู่ทั่วประเทศ เพื่อกระจายสินค้าให้กับผู้ค้าน้ำมันรายย่อยในแต่ละเขตพื้นที่ ซึ่งลูกค้ากลุ่มหลักอยู่ในพื้นที่จังหวัดภาคใต้และใกล้เคียง

Avatar photo