นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ( ธปท.) เปิดเผยว่า การดำเนินนโยบายการเงินมีกรอบจำกัด เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายปัจจุบันที่ 1.25% เป็นอัตราที่ต่ำสุดในประวัติการณ์และในภูมิภาค นับตั้งแต่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจโลกในปี 2551-2552 ไม่คิดว่าไทยจะมีอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ติดลบด้วย เนื่องจากอาจสร้างผลกระทบต่อโครงสร้างเศรษฐกิจได้
“การใช้นโยบายการเงิน และการคลังของไทยเริ่มมีข้อจำกัดมากขึ้น โดยเฉพาะเชิงโครงสร้าง เราไม่มีความสามารถในการทำนโยบายแรงๆ หรือใช้ยาแรงๆ ได้อีกมาก และไม่ควรทำ เพราะอาจจะสร้างความเสี่ยงด้านเสถียรภาพตามมา ขณะที่การส่งผ่านนโยบายที่มีความยากลำบากขึ้น ดังนั้นธนาคารแห่งประเทศไทย กำลังศึกษาการส่งผ่านนโยบายการเงิน ผ่านผู้เล่นรายใหม่ นอกเหนือจากการส่งผ่านสถาบันการเงินต่างๆ เพื่อให้นโยบายการเงินมีประสิทธิภาพมากขึ้น” นายวิรไท กล่าว
ส่วนค่าเงินบาทที่แข็งค่ามาก นายวิรไท ยอมรับว่าเป็นการแข็งค่าเกินกว่าปัจจัยพื้นฐาน และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนในปีหน้ายังมีอยู่สูงมาก โดยไม่สามารถตอบได้ว่าเงินบาทจะแข็งค่าหรือจะอ่อนค่า เป็นไปได้ทั้งสองทิศทาง ซึ่งเงินบาทอาจจะมีการปรับทิศได้เร็ว หากสถานการณ์ภายนอกเปลี่ยนแปลง เพราะที่ผ่านมาเงินบาทแข็งค่ามาก ดังนั้นเอกชนต้องบริหารความเสี่ยง อัตราแลกเปลี่ยนมากขึ้น
“ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนในปีหน้าสูงขึ้น ดังนั้น ถ้าเอกชนต้องทนทานและบริหารความเสี่ยงให้ดี โดยความผันผวนของเงินบาทมาจากปัจจัยต่างประเทศทั้งปัญหาภูมิรัฐศาสตร์โลก ที่เข้ามากระทบตลาดเงินและตลาดทุนอย่างต่อเนื่อง” นายวิรไท กล่าว
ข้อมูล: สำนักข่าวไทย