นักลงทุนในตลาดหุ้นมักแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลักๆ คือสาย Trading ซื้อๆ ขายๆ เพื่อเก็งกำไรส่วนต่างราคา ขณะเดียวกันก็มีอีกกลุ่มที่เชื่อในการลงทุนระยะยาว ซื้อหุ้นแต่ละทีก็อยากถือไปนานๆ รับผลตอบแทนเล็กๆ น้อย เก็บสะสมไปเรื่อยๆ ซึ่งผลตอบแทนที่ว่านั้นอยู่ในรูปแบบของเงินปันผลนั่นเอง
“หุ้นปันผล” จึงเป็นหุ้นประเภทที่นักลงทุนสายคุณค่า (Value Invester) ตามหาเก็บไว้ในพอร์ต และจากสถิติของบริษัทจัดทะเบียนในไทย ก็สะท้อนว่าธุรกิจที่จ่ายปันผลดี มักจะมีการเติบโตสม่ำเสมอ เงินสดไม่ขาดมือ และมีความสามารถทางการแข่งขันสูง แต่อาจไม่ได้หวือหวามากนัก
เพราะฉะนั้น จุดเด่นของการเก็บหุ้นปันผล จึงตอบโจทย์แผนลงทุนระยะยาว และช่วยลดความเสี่ยง เปรียบเสมือน Defensive Stock รวมถึงได้รับกระแสเงินสดจากเงินปันผลอย่างต่อเนื่องอีกด้วย แม้ช่วงตลาดหุ้นเป็นขาลงก็ไม่กังวลมากเท่าไหร่นัก
สำหรับหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกหุ้นปันผลสูง เบื้องต้นจะประกอบด้วย 3 ข้อ ได้แก่
1. นโยบายการจ่ายปันผลไม่น้อยกว่า 30%
2. มีการจ่ายปันผลสม่ำเสมอ และให้ผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) มากกว่า 5% ต่อปี
3. เงินปันผลที่จ่ายมาจากกำไรที่เติบโต ไม่ใช่เงินกำไรพิเศษ
อย่างไรก็ดี หุ้นที่ไม่เหมาะกับการถือรับปันผลก็มีเช่นกัน อาทิ หุ้นวัฎจักรที่สินค้าโตเป็นรอบๆ เช่น พลังงาน โรงกลั่น เหล็ก สินค้าเกษตร เป็นต้น เนื่องจากช่วงไหนเป็นขาขึ้น กำไรก็จะเยอะเป็นพิเศษ ปันผลก็ดูเยอะไปด้วย แต่พอธุรกิจเริ่มเข้าสู่ช่วงขาลง กำไรก็จะลดลงตามไปด้วย เงินปันผลก็ผันผวนไปตามรอบ เอาแน่เอานอนไม่ค่อยได้
เปิดโผ 10 หุ้นปันผลสูง ยีลด์เกิน 8%
จากการรวบรวมข้อมูลหุ้นปันผลจากกลุ่มนักวิเคราะห์ของของสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน หรือ IAA Consensus โดยคาดการณ์ Dividend yield ในอนาคต พบว่ามี 10 หุ้นที่ติดอันดับ ดังนี้
ซื้อหุ้นปันผลช่วงไหนดีที่สุด ?
คำถามสำคัญ คือ ถ้าอยากลงทุนหุ้นปันผลไว้ในพอร์ต ซื้อตอนไหนดีที่สุด คำตอบโดยทั่วไปแล้วเราต้องซื้อก่อนวันที่บริษัทจดทะเบียนประกาศจ่ายเงินปันผลและขึ้นเครื่องหมาย XD ประมาณ 1 – 2 เดือน เพราะหากไปรอซื้อช่วงใกล้ๆ มีโอกาสสูงที่ราคาหุ้นจะแพงกว่าที่ควรจะเป็น
ทั้งนี้ บริษัทมักจะเริ่มทยอยประกาศ XD ประมาณช่วงเดือนมีนาคม – เมษายน ดังนั้น ระหว่างเดือนมกราคม – ต้นกุมภาพันธ์ จึงถือเป็นจังหวะที่ดีในการทยอยเก็บหุ้นปันผล