ธุรกิจ Co-Working Space และธุรกิจให้เช่าสำนักงานอาจต้องเตรียมตัวรับความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีไว้บ้างแล้วเหมือนกัน เพราะในขณะที่เราเห็นการลงทุนปรับแต่งอาคารจำนวนมากเพื่อให้เป็นแหล่งทำงานสำหรับคนรุ่นใหม่อยู่นั้น ในสหรัฐอเมริกา มีบริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์รายหนึ่ง เปลี่ยนมาใช้โลกเสมือนจริงในการทำงานแล้ว
บริษัทแห่งนี้มีชื่อว่า eXp Realty โดยมีนายหน้ามากกว่า 12,000 คนครอบคลุมตลาดทั้งสหรัฐอเมริกา, แคนาดา, อินเดีย และเยอรมนี ซึ่งโดยปกติแล้ว บริษัทต้องลงทุนหาพื้นที่ขนาดใหญ่เพื่อเป็นหน้าเป็นตาของบริษัท และรองรับการทำงานของพนักงานเหล่านี้ แต่ eXp ไม่มีสำนักงานที่ใหญ่ขนาดนั้น ตรงกันข้าม พวกเขามีออฟฟิศเล็ก ๆ ตั้งอยู่ในเบลลิงแฮม เพื่อให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ส่วนการทำงานจริงของพนักงานทั้ง 12,000 คนนั้นอยู่ในออฟฟิศแบบเวอร์ชวลที่ให้ประสบการณ์สุดชิคแทน
โดยความน่าสนใจของออฟฟิศเสมือนจริงนี้ก็คือ บริษัทสามารถลดค่าใช้จ่ายหลายตัวในโลกแห่งความเป็นจริง เช่น ค่าบำรุงรักษาอาคาร, ค่าขยายพื้นที่เมื่อมีพนักงานเพิ่ม, ค่าน้ำค่าไฟค่าโทรศัพท์ ฯลฯ ไปได้อย่างสิ้นเชิง เพราะเมื่อมาอยู่บนโลกเสมือนจริงนั้น พวกเขาจะสร้างพื้นที่ให้มีขนาดใหญ่แค่ไหนก็ได้ แถมพนักงานจะเข้าถึงจากที่ไหนก็ได้ขอแค่มีอินเทอร์เน็ต
นอกจากนั้น การมีออฟฟิศแบบเวอร์ชวล ยังทำให้บริษัทสามารถจ้างพนักงานเก่ง ๆ ได้จากทั่วโลก โดยไม่ต้องกังวลว่าพวกเขาจะต้องขอเอกสารวีซ่า ทำเรื่องย้ายที่อยู่ หรือต้องจากครอบครัวไปไกลด้วย ยกตัวอย่างของผู้บริหารระดับสูงจาก eXp ที่ซีอีโอทำงานมาจากวอชิงตัน ส่วน COO บ้านอยู่นิวยอร์ก หรือ CFO ที่บ้านอยู่เนวาดา เป็นต้น
โดยพนักงานในองค์กรจะอยู่ในออฟฟิศเสมือนแห่งนี้ด้วยตัวอวาตาร์ (Avatars) ที่สามารถเลือกเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายได้ด้วยตัวเอง (รวมถึงมีชุดใหม่ ๆ เข้ามาอัปเดตอย่างต่อเนื่องด้วย เพราะ eXp พบว่าพนักงานบางคนก็ชอบเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวให้อวาตาร์ทุกวัน) และยังมีการตกแต่งบรรยากาศภายในออฟฟิศเวอร์ชวลด้วยห้องประชุม สนามหญ้า ลานพักผ่อน ประภาคาร รวมถึงการจำลองพื้นที่แบบ Co-Working Space เอาไว้ในออฟฟิศแบบเวอร์ชวลนี้ด้วย แต่สิ่งที่เหนือกว่าก็คือ พวกเขาสามารถจัดประชุมได้โดยที่เสียงจากพนักงานคนอื่น ๆ ที่เดินขวักไขว่จะไม่เล็ดรอดเข้ามาในห้องประชุม และด้วยความที่เป็นออฟฟิศแบบเวอร์ชวล ทำให้ทางทีมงานสามารถออกแบบบรรยากาศได้อีกมากอย่างที่ออฟฟิศธรรมดาทั่วไปไม่สามารถทำได้ เช่น
- บรรยากาศการทำงานบนเกาะสุดหรู
- การมีสปีดโบ๊ทให้พนักงานได้ขับเล่นในทะเล
- สามารถจัดอีเวนท์ต่าง ๆ แบบเฉพาะกลุ่มได้ โดยคนที่อยู่นอกกลุ่มจะไม่ได้สัมผัสประสบการณ์นั้น ๆ ด้วย
โดยการทำงานดังที่กล่าวมานี้ จะใช้งานได้ก็ต่อเมื่อพนักงานดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน eXp World และลงทะเบียนเข้าใช้งาน
เกลนน์ แซนฟอร์ด ซีอีโอ และผู้ก่อตั้ง eXp Realty เผยว่า เขาเริ่มสร้างบริษัทเมื่อช่วง 10 ปีก่อนหน้า โดยในยุคนั้นสภาพเศรษฐกิจย่ำแย่ และเพิ่งผ่านช่วงวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอเมริกามาไม่นาน บริษัทของเขาจึงไม่มีเงินพอที่จะเช่าสำนักงาน ใด ๆ ได้ นั่นจึงทำให้เขาคิดถึงการทำงานจากระยะไกลแทน โดยเขาได้ใส่เครื่องมือเช่น Google Apps for Work (ปัจจุบันใช้ชื่อว่า G Suite) ลงไปให้พนักงานใช้ผ่านคลาวด์ เพิ่ม Trello เครื่องมือช่วยบริหารจัดการงาน, เพิ่ม Slack สำหรับการติดต่อสื่อสาร ฯลฯ
สิ่งที่น่าสนใจจากการพูดคุยกับซีอีโอรายนี้ก็คือ การที่เขามองว่า นายหน้าอสังหาริมทรัพย์มืออาชีพนั้นไม่ได้ต้องการออฟฟิศไว้เพื่อพิมพ์งาน หรือมีโต๊ะวางโทรศัพท์เอาไว้ให้โทรติดต่อ แต่สิ่งที่คนเหล่านี้ต้องการจริง ๆ คือเน็ตเวิร์ก, พื้นที่สำหรับการทำงานร่วมกัน และที่ขาดไม่ได้คือ การอบรมสัมมนา ซึ่งก็คือสิ่งที่ eXp Realty เตรียมเอาไว้รองรับแล้วนั่นเอง
ในปีที่ผ่านมา มูลค่าหุ้นของ eXp เพิ่มขึ้นกว่า 300 เปอร์เซ็นต์ และทำให้บริษัทมีมูลค่าทะลุ 1 พันล้านดอลลาร์ไปแล้วเรียบร้อย ซึ่งหากมีบริษัทอื่น ๆ เห็นดีเห็นงามกับ eXp ก็เป็นไปได้ว่าโฉมหน้าของธุรกิจอสังริมทรัพย์จะเปลี่ยนไปอีกชนิดที่ว่าหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว ซึ่งคนที่จะได้ประโยชน์จากเทรนด์ดังกล่าว ก็คือธุรกิจที่เตรียมตัวในด้านดังกล่าวเอาไว้แต่เนิ่น ๆ ส่วนจะมีใครบ้างนั้น ในอีก 1 – 2 ปีข้างหน้าเราคงได้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น และคาดว่าหนึ่งในนั้นน่าจะมีชื่อของมาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก เจ้าพ่อโซเชียลมีเดียอย่างเฟซบุ๊ก ที่ไปควบกิจการของโอคูลัสรวมอยู่ด้วย
