World News

ปธ.เฟด กำหนดแถลงนโยบายต่อสภาสหรัฐ

นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีกำหนดกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้ โดยนายพาวเวลจะกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันอังคาร (17 ก.ค.) และจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันพุธที่จะถึงนี้ (18 ก.ค.)

jerome

ก่อนหน้านี้นายพาวเวลได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุมาร์เก็ตเพลสว่า การที่คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าในระดับสูงนั้น จะส่งผลกระทบในด้านลบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ

“เจ้าหน้าที่เฟดได้รับฟังความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้นจากภาคธุรกิจในสหรัฐ เกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการภาษีนำเข้าของคณะทำงานปธน.ทรัมป์ ผมคิดว่าถ้าคุณหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอ่านวันนี้ คุณก็จะได้ยินสิ่งเหล่านี้จากบรรดานักธุรกิจ นี่เป็นเรื่องยากที่จะคาดการณ์ได้ว่าผลที่เกิดขึ้นจะออกมาเป็นอย่างไร”

แถลงการณ์ของนายพาวเวล ที่มีการเปิดเผยออกมาก่อนหน้านี้ ระบุว่า เฟดมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ แรงหนุนจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจ ความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นในภาคครัวเรือน การขยายตัวของเศรษฐกิจในต่างประเทศ และสภาวะทางการเงินที่ผ่อนคลายภายในประเทศ ขณะที่อัตราว่างงานอยู่ในระดับต่ำ

เฟดคาดว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปยังคงเป็นการดำเนินการที่เหมาะสม เนื่องจากไม่มีแรงกดดันจากเงินเฟ้อ และมีการประเมินว่า อาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วง 2 ปีข้างหน้า โดยในช่วงปลายปี 2562 อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดจะอยู่ในระดับซึ่งจะจำกัดการขยายตัวเล็กน้อย ขณะที่อัตราดอกเบี้ยจะอยู่เหนือระดับที่เป็นกลางในช่วงเวลาดังกล่าว

มุมมองของเฟดดังกล่าวสอดคล้องกับการแสดงความเชื่อมั่นก่อนหน้านี้ของนายพาวเวลที่ว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงอยู่ในภาวะที่ดี โดยมาตรการปรับลดอัตราภาษี และการเพิ่มการใช้จ่ายของรัฐบาลจะช่วยหนุนผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ต่อไปอีก 3 ปี

รายงานของนายพาวเวลไม่ได้กล่าวถึงผลกระทบจากมาตรการทางการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มากนัก เพียงแต่ระบุว่าความไม่แน่นอนต่อนโยบายการค้าสหรัฐเป็นปัจจัยสร้างความวิตกต่อตลาดการเงิน

แถลงการณ์ของนายพาวเวลบ่งชี้ว่า เฟดไม่มีความกังวลมากนักเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเงิน โดยระบุว่าตลาดพันธบัตรค่อนข้างมีเสถียรภาพ และแทบไม่มีแรงกดดันด้านสภาพคล่อง แต่ตั้งข้อสังเกตว่าในช่วงที่เศรษฐกิจเกิดการชะลอตัว ก็จะเพิ่มความเปราะบางต่อหุ้นกู้ภาคเอกชนที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับต่ำ

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight