ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายเช้าวันนี้ (20 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ปรับตัวลดลง จากความกังขาเรื่องข้อตกลงการค้าที่ยังเกาะติดตลาดอยู่ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ขู่ที่จะขึ้นภาษีต่อสินค้านำเข้าของจีน หากเจรจาการค้าไม่มีความคืบหน้า ประกอบกับที่ 2 ฝ่ายมีความขัดแย้งกันมากขึ้นในเรื่องฮ่องกง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดปรับลงมา 60.57 จุด หรือ 0.22% ที่ 27,873.45 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ขยับลงมา 3.86 จุด หรือ 0.12% ที่ 3,116.32 จุด และดัชนีแนสแด็ก ลดลง 9.78 จุด หรือ 0.11% ที่ 8,560.88 จุด
วันนี้ รัฐบาลจีนได้ออกมาประณามกรณีวุฒิสภาสหรัฐ ผ่านร่างกฎหมายเกี่ยวกับฮ่องกง 2 ฉบับ ที่มีเป้าหมายเพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชนในเขตปกครองพิเศษของจีน ท่ามกลางการประท้วงที่ยืดเยื้อ และรุนแรงมากขึ้น
นักวิเคราะห์ชี้ว่า เรื่องที่ตลาดกังวลมากสุดในขณะนี้ คือ การตัดสินใจของวุฒิสภา ทั้งที่จีนแสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่า ไม่ต้องการเห็นประเทศใดเข้าแทรกแซงกิจการภายในฮ่องกง ซึ่งเรื่องนี้กลายมาเป็นปัจจัยด้านลบตั้งแต่เริ่มต้นการซื้อขาย
หุ้นเทคโนโลยี ที่มีความเสี่ยงต่อเรื่องความขัดแย้งกับจีน อย่างอินเทล คอร์ป ไมครอน เทคโนโลยี อิงค์ และแอปเปิ้ล อิงค์ ต่างเป็นแกนนำขาลงของตลาดในวันนี้ เช่นเดียวกับหุ้นบริษัทจีน ที่จดทะเบียนในตลาดสหรัฐ
นักลงทุนในตลาดยังไม่ตัดสินใจเข้าลง เพราะต้องการรอดูรายงานหลังการประชุมเมื่อสิ้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ของเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบาย ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หรือเฟด มินนิท เพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับจุดยืนด้านนโยบายการเงินของเฟดในอนาคต หลังจากที่เฟดลดดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 3 ในการประชุมดังกล่าว แต่ส่งสัญญาณว่า จะไม่มีการลดดอกเบี้ยอีกในขณะนี้
