ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (19 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ท่ามกลางความรู้สึกด้านบวกว่า สหรัฐ และจีน จะเห็นพ้องในข้อตกลง ที่จะช่วยยุติสงครามการค้า ที่สร้างความเสียหายอย่างหนัก และเป็นภัยคุกคามต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดขยับลงมา 25.70 จุด หรือ 0.09% ที่ 28,010.52 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปรับขึ้น 0.22 จุด หรือ 0.01% ที่ 3,122.25 จุด และดัชนีแนสแด็กขยับขึ้นมา 8.30 จุด หรือ 0.10% ที่ 8,558.23 จุด
สงครามการค้าที่ยืดเยื้อมานานร่วม 16 เดือน ทำให้เศรษฐกิจจีนต้องเจอกับการเติบโตที่ช้าลง และยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐในบางส่วนด้วย
แต่ตลาดหุ้นสหรัฐ กลับค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จนแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนนี้ ท่ามกลางความหวังที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถบรรลุข้อตกลงเพื่อยุติความขัดแย่งได้
นักวิเคราะห์ชี้ว่า นักลงทุนในตลาดยังคงมีความเชื่อมั่นว่า จะได้เห็นข้อตกลงการค้าส่วนแรก ก่อนที่จะถึงกำหนดเส้นตายที่สหรัฐจะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนครั้งต่อไปในวันที่ 15 ธันวาคมนี้
ตลาดยังได้แรงหนุนจากความรู้สึกของผู้บริโภคที่ยังแข็งแกร่งอยู่ จากข้อมูลยอดขายสินค้าเมื่อเร็วๆ นี้ และรอดูสถานการณ์ในช่วงเทศกาลช้อปปิ้ง “แบล็ค ฟรายเดย์” ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นฤดูจับจ่ายซื้อของสำหรับเทศกาลวันหยุดปลายปีอย่างไม่เป็นทางการ
อย่างไรก็ดี ขาขึ้นของตลาดยังตกอยู่ภายใต้แรงกดดันเล็กๆ จากการที่ นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก กล่าวในวันนี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังเผชิญกับความท้าทายหลายด้านอย่างชัดเจน ซึ่งความท้าทายในอันดับต้นๆ นั้นมาจากต่างแดน แต่เชื่อว่า การลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา จะช่วยรักษาเสถียรภาพการเติบโตได้
