Sme

เผยความสำเร็จ ‘เอสเอ็มอี’ ปรับใช้เทคโนโลยีในธุรกิจ

เอสเอ็มอีไทย เห็นผลลัพธ์หลังปรับธุรกิจสู่ดิจิทัล จากโครงการ Smart Business Transformation เผยประสิทธิภาพการดำเนินงานดีขึ้น ต้นทุนลดลง สร้างทัศนคติและความคิดดิจิทัลให้เกิดขึ้นในองค์กร พร้อมช่วยสนับสนุนการขยายธุรกิจสู่ประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค

นางสาวปิยพร รัตน์ประสาทพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ เครือข่ายสาขาและบริการดิจิทัล ธนาคารยูโอบี (ไทย) เปิดเผยว่า ธนาคารยูโอบี (ประเทศไทย) และเดอะ ฟินแล็บ ได้จัดทำโครงการ Smart Business Transformation คัดเลือกผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย 15 บริษัท ให้นำเทคโนโลยีและดิจิทัลโซลูชันต่างๆ ไปใช้งาน เพื่อปรับและขับเคลื่อนองค์กรสู่ดิจิทัล โดยไทยนับเป็นประเทศแรกต่อจากสิงคโปร์ที่นำโครงการดังกล่าวมาใช้ หลังจากประสบความสำเร็จในการบ่มเพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอีประเทศสิงคโปร์

เอสเอ็มอี

จากการดำเนินโครงการดังกล่าว ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา ภายใต้ความร่วมมือกับองค์กรพันธมิตร ได้แก่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) พบว่า ได้เห็นผลลัพธ์เชิงบวกที่สำคัญ โดยช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำธุรกิจ ลดต้นทุนต่างๆ สร้างทัศนคติและความคิดดิจิทัลให้เกิดขึ้นในองค์กร พร้อมทั้งช่วยสนับสนุนและอำนวยความสะดวกในการขยายธุรกิจสู่ประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค

ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลา 3 เดือนของการดำเนินโครงการ เอสเอ็มอีทั้ง 15 บริษัท ได้มีโอกาสทบทวนและวิเคราะห์รูปแบบธุรกิจของตนเอง เพื่อบ่งชี้โอกาสในการพัฒนา รวมถึงได้กำหนดกลยุทธ์ระยะยาวในการปรับองค์กรสู่ดิจิทัล ก่อนที่จะได้ทดลองใช้ดิจิทัลโซลูชันต่างๆ ที่ทางโครงการได้คัดเลือกและแนะนำที่เหมาะกับธุรกิจ เพื่อจัดการความท้าทายต่างๆ ที่ประสบปัญหาอยู่ นอกจากนี้ ด้วยเครือข่ายที่มั่นคงและครอบคลุมทั่วภูมิภาคของกลุ่มธนาคารยูโอบี จะช่วยให้เอสเอ็มอีสามารถขยายธุรกิจไปยังตลาดอื่นๆ ในภูมิภาคนี้อีกด้วย

คุณปิยพร รัตน์ประสาทพร
ปิยพร รัตน์ประสาทพร

นายเฟลิกซ์ ตัน หัวหน้ากลุ่มงานร่วม เดอะ ฟินแล็บ กล่าวว่า แม้โครงการ 3 เดือนจะสิ้นสุดลงแล้ว แต่ยังเห็นแรงผลักดันและความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงธุรกิจของเอสเอ็มอีที่เข้าร่วมโครงการ หลายบริษัทกำลังใช้ดิจิทัลโซลูชันที่ได้จับคู่ทดลองใช้และเริ่มเห็นผลลัพธ์ในเชิงบวก ไม่ว่าจะเป็นยอดขายและจำนวนลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น ตลอดจนผลผลิตที่เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการทำธุรกิจ

นายวิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด ผู้ให้การสนับสนุนหลักชุดแข่งนักฟุตบอลทีมชาติไทย หนึ่งในเอสเอ็มอีที่เข้าร่วมโครงการได้ทำงานร่วมกับ Boostorder และ Anchanto เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มการขายผ่านช่องทางออนไลน์ที่สามารถเชื่อมลูกค้าไปสู่ร้านค้าปลีก กล่าวว่า โครงการ Smart Business Transformation ช่วยให้บริษัทพัฒนาโครงสร้างการบริหารและปรับขยายขนาดธุรกิจ

คุณวิศัลย์
วิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล

“เพียง 3 เดือนหลังจากดำเนินการสามารถบรรลุเป้าการเติบโตยอดขายประจำเดือนที่สูงขึ้นถึง 270% และคาดว่ายอดขายจะเพิ่มสูงขึ้น 400% ภายในสิ้นปีนี้ และ ตอนนี้เรายังมั่นใจมากขึ้นในแผนการขยายธุรกิจไปสู่ประเทศอื่นๆ ด้วยแพลตฟอร์มการขายที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งประเทศแรกที่ตั้งใจว่าจะไป คือ อินโดนีเซีย”นายวิศัลย์ กล่าว

เณริศา อิศรางกูร ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ เอ ลิทเทิล ลัลลาบาย เจ้าของผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กภายใต้แบรนด์ “Nappi” ใช้วัสดุใยไผ่ด้วยวิธีการเก็บเกี่ยวแบบยั่งยืน เป็นอีกหนึ่งเอสเอ็มอีรุ่นแรกที่เข้าร่วมบ่มเพาะในโครงการ โดยทดลองใช้ 3 โซลูชัน ได้แก่ UOB BizSmart, Offeo และ Zaviago มีเป้าหมายในการสร้างความเติบโตของแบรนด์และนำเสนอคุณสมบัติด้านการดูดซับที่ดีเยี่ยมของผลิตภัณฑ์ที่ไม่ก่อให้เกิดการแพ้ ผ่านการตลาดออนไลน์ ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ดร.วิรไท 2

“หนึ่งในความท้าทายสำคัญที่เราประสบอยู่คือการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งให้แก่ผลิตภัณฑ์ของเราท่ามกลางตลาดที่มีการแข่งขันสูงขึ้น”

หลังจากเข้าร่วมโครงการ Smart Business Transformation ทำให้ได้เรียนรู้ถึงการทำการตลาดออนไลน์ที่ดีขึ้น และนำโซลูชันการตลาดระบบดิจิทัลมาปรับใช้เพื่อสร้างการเติบโตของแบรนด์ เช่น ใช้ Offeo สร้างสรรค์วิดีโอเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กบนสื่อโซเชียล ซึ่งทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้มากขึ้นถึง 20% เป็นต้น

Avatar photo