ตลาดหุ้นเอเชีย ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (19 พ.ย.) เคลื่อนไหวเบาบางอย่างต่อเนื่อง เหตุนักลงทุนยังเฝ้ารอความชัดเจนมากกว่านี้่ ถึงความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ
ดัชนีนิกเคอิ ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว เคลื่อนไหวล่าสุด ลดลง 93.07 จุด หรือ 0.40% ที่ 23,323.69 จุด ดัชนีฮั่งเส็ง ของฮ่องกงขยับขึ้นมา 125.37 จุด หรือ 0.47% ที่ 26,806.46 จุด ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ เพิ่มขึ้น 1.89 จุด หรือ 0.07% ที่ 2,911.09 จุด และดัชนีสเตรทไทมส์ ของสิงคโปร์ลดลง 22.25 จุด หรือ 0.68% ที่ 3,236.41 จุด
ทางด้านดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ของสหรัฐ ปิดซื้อขายเมื่อคืนนี้ (18 พ.ย.) ที่ 28,036.22 จุด เพิ่มขึ้น 31.33 จุด หรือ 0.11% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,122.03 จุด เพิ่มขึ้น 1.57 จุด หรือ 0.05% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 8,549.94 จุด เพิ่มขึ้น 9.11 จุด หรือ 0.11%
เมื่อคืนนี้ ซีเอ็นบีซีรายงานถึงความไม่พอใจของรัฐบาลจีน เกี่ยวกับการเจรจาการค้ากับสหรัฐ โดยระบุว่า บรรยากาศการเจรจาทางการค้าอยู่ในภาวะอึมครึม เนื่องจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ปฏิเสธที่จะยกเลิกการปรับเพิ่มภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีน ทำให้จีนไม่พอใจ เพราะมองว่าทั้งสองฝ่ายเคยตกลงกันในเรื่องนี้แล้ว และว่า กลยุทธ์ในการเจรจาในขณะนี้คือ เจรจาต่อ แต่ให้รอไปก่อน เพราะยังมีหลายปัจจัย เช่น กระบวนการถอดถอนประธานาธิบดี และการเลือกตั้งในสหรัฐ
อย่างไรก็ดี การที่ สหรัฐประกาศขยายเวลาอีก 90 วันให้แก่บริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ ในการซื้อสินค้าจากบริษัทอเมริกัน ทำให้ดูเหมือนว่า 2 ฝ่ายมีความคืบหน้ามากขึ้นในการแก้ไขข้อพิพาททางการค้า
นักวิเคราะห์ชี้ว่า สถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทำให้นักลงทุนเลือกที่จะรอดูสถานการณ์ แต่เตือนว่า ยิ่งรอนานเท่าใด ก็จะยิ่งทำให้เกิดความกังวลมากขึ้นเท่านั้น เพราะจะทำให้รู้สึกถึงความไม่แน่นอนมากขึ้น และยิ่งสร้างความวิตกขึ้นมา
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ซื้อขายในตลาดเอเชียเช้านี้ล่าสุดปรับลงมา 1.6% ที่ 62.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท ลดลง 0.23% ที่ 56.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ส่วนราคาทองคำแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่ 1,470.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
