ตลาดหุ้นเอเชีย ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (18 พ.ย.) เป็นไปอย่างเงียบเหงา นักลงทุนอยู่ในภาวะเฝ้ารอ เพื่อหาหลักฐานที่แท้จริงถึงความคืบหน้าในข้อพิพาททางการค้าระหว่างจีน กับสหรัฐ แม้จะได้แรงหนุนบางส่วนจากวอลล์สตรีท ที่ทะยานขึ้นปิดระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (15 พ.ย.)
ดัชนีนิกเคอิ ตลาดหลักทรัพย์โตกียว ของญี่ปุ่น เคลื่อนไหวล่าสุดบวก 35.30 จุด หรือ 0.15% ที่ 23,338.62 จุด ดัชนีฮั่งเส็ง ของฮ่องกงขยับขึ้นมา 241.82 จุด หรือ 0.92% ที่ 26,568.48 จุด ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ ของจีนปรับขึ้น 8.87 จุด หรือ 0.31% ที่ 2,900.22 จุด และดัชนีสเตรทไทมส์ ของสิงคโปร์บวก 8.12 จุด หรือ 0.25% ที่ 3,246.98 จุด
เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ของสหรัฐ ปิดที่ 28,004.89 จุด เพิ่มขึ้น 222.93 จุด หรือ 0.80% พุ่งทะลุเพดาน 28,000 จุดเป็นครั้งแรก ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,120.46 จุด เพิ่มขึ้น 23.83 จุด หรือ 0.77% และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 8,540.83 จุด เพิ่มขึ้น 61.81 จุด หรือ 0.73%
ตลาดเริ่มมีความกังขาถึงความก้าวหน้าในการเจรจาการค้า ระหว่างจีนกับสหรัฐ เมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้ว แม้จะค่อยๆ กลับมามองด้านบวกมากขึ้น หลังจากที่เจ้าหน้าที่สหรัฐ ออกมาระบุถึงทิศทางการหารือที่ดีขึ้น
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (16 พ.ย.) สื่อทางการจีนระบุว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของ 2 ฝ่าย โทรศัพท์หารือกัน และการเจรจาเป็นไปในเชิงสร้างสรรค์
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์เตือนว่า ตลาดยังคงมีความเสี่ยงที่จะเกิดความผันผวนในระยะสั้นมากขึ้น เมื่อพิจารณาถึงเรื่องราวๆ ต่าง ที่เกิดขึ้นรายล้อมการเจรจาการค้า สถานการณ์ความวุ่นวายในอิหร่าน และตะวันออกกลาง การเดินหน้ากระบวนการถอดถอนประธานาธิบดีสหรัฐออกจากตำแหน่ง และข้อมูลเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอ
