อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ทุ่ม 10 ล้าน สร้างศาลาพิพิธภัณฑ์ถ้ำหลวง วาดภาพเล่าเรื่องภารกิจช่วยเหลือทีมหมูป่า อะคาเดมี ความสูง 3 เมตร ยาว 13 เมตร พร้อมสร้างอนุสาวรีย์ “จ่าแซม” เพื่อแสดงให้เห็นถึงความดี และความกล้าหาญของจ่าแซม ซึ่งจะนำไปตั้งไว้ที่ถ้ำหลวง วนอุทยานขุนน้ำนางนอน อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เล็งพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก
อ.เฉลิมชัย เปิดเผยว่า ประติมากรรม จ.อ.สมาน กุนัน หรือ จ่าแซม ซึ่งเป็นแนวคิดของเขานั้น จะเป็นประติมากรรมที่ทรงคุณค่า ขนาด 1.5 เท่า สูง 2.40 เมตร เป็นรูปจ่าแซมกำลังก้าวเดิน มองไปที่ถ้ำหลวง มีรูปหมูป่า 13 ตัวที่ฐาน จะเทียบอายุแต่ละคนเป็นทีมหมูที่ร่าเริงเป็นตัวแทนของเด็กและโค้ช โดยจะใช้เวลาไม่เกิน 2 เดือนครึ่ง แล้วส่งไปหล่อที่โรงหล่อเอเซียไฟน์อาร์ตที่อยุธยาที่รับหล่อให้ฟรี โดยจะทำการขึ้นรูปที่โรงปั้นในวัดร่องขุ่น
ในวันนี้ (14 ก.ค.) กลุ่มศิลปินหลากหลายแขนงในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ได้เดินทางมารวมตัวกันที่สมาคมขัวศิลปะ เพื่อช่วยกันวาดภาพบนผืนผ้าใบและทำรูปปั้นขนาด 1 เท่าครึ่งของจ่าแซม นักทำลายใต้น้ำจู่โจมนอกราชการ ที่เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติภารกิจช่วยทีมหมูป่าอะคาเดมีออกจากถ้ำหลวง
ศิลปินทุกคนที่มารวมกันได้สวมเสื้อยืดสีขาว ที่หน้าอกมีข้อความว่า “HERO” ทั้งนี้เพื่อเชิดชูเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เสียสละในภารกิจช่วยทีมหมูป่าอะคาเดมีออกจากถ้ำหลวง
อ.เฉลิมชัย บอกด้วยว่า สำหรับอนุสาวรีย์นั้น เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ จะนำมาวางไว้หน้าศาลา โดยจะสร้างเป็นอาคารยาว 20 เมตร มีห้องน้ำ 20 ห้อง ออกแบบให้กลมกลืนกับธรรมชาติของถ้ำหลวง เป็นที่รับรองแขกที่มาเที่ยวถ้ำ เข้าไปชมงานศิลปะที่สร้างขึ้น มีเรื่องราวรูปภาพการทำงานเหตุการณ์กู้ภัยถ้ำหลวง เป็นที่นั่งพักผ่อนหย่อนใจพร้อมกับได้ศึกษาประวัติศาสตร์ของถ้ำหลวง
โครงการดังกล่าวได้รับการอนุญาตจากกรมอุทยาน สัตว์ป่าและพันธุ์พืชเรียบร้อยแล้ว โดยอ.เฉลิมชัย ระบุว่า ได้รับแจ้งว่าทางอธิบดีกรมอุทยานจะเดินทางไปหาเขา ที่บริเวณหน้าถ้ำหลวงใน วันที่ 15 กรกฎาคม เพื่อจะได้ปรึกษาเรื่องรายละเอียดที่ตั้งต่างๆ ต่อไป
สำหรับการวาดภาพในครั้งนี้เพื่อเป็นการบอกเล่าถึงเหตุการณ์การช่วยเหลือชีวิตนักเตะทีมหมูป่าอะคาเดมี่ และโค้ช ทั้ง 13 คน ที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง ตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน จนสามารถช่วยเหลือออกจากถ้ำครบทั้งหมดในวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา
ภายในภาพจะเล่าเรื่องการปฏิบัติงานของหลายหน่วยงานทั้งไทยและต่างประเทศร่วมกันเพื่อช่วยเหลือทั้ง 13 คน รวมไปถึงเหตุการณ์สูญเสียจ่าแซม โดยใช้ชื่อภาพว่า “มิตรภาพไร้พรมแดน” มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ภาพนี้เป็นภาพบันทึกเหตุการณ์ ประวัติศาสตร์ของชาวเชียงราย และชาวโลก
“ตอนนี้ถ้ำหลวงเป็นระดับโลกแล้วทุกคนรู้จักประเทศไทย ทุกคนรู้จักถ้ำหลวง เราควรขาย เพื่อนำเงินกลับมายังประเทศของเรา ผมจึงคิดเซ็ตนี้ จึงลงทุน สิบล้านเอง โดยจะทำให้เสร็จทันเวลาหน้าหนาวนี้ คนมาที่ถ้ำหลวงจะมีที่เสพสุนทรียภาพ นั่งชมธรรมชาติของถ้ำหลวง เข้าไปในศาลานี้นั่งดื่มด่ำกับงานศิลปะ ที่มีทั้ง สถาปัตยกรรม จิตกรรม ประติมากรรม ในถ้ำหลวงแห่งนี้ พร้อมกับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ทันกับงานกีฬาแห่งชาติที่จะมีขึ้นที่เชียงรายเป็น ครั้งที่ 46 เจียงฮายเกมส์ ระหว่างวันที่ 18 – 28 พฤศจิกายน 2561 ณ จังหวัดเชียงราย”
เตรียมยกระดับถ้ำหลวงเป็นอุทยานแห่งชาติ
ทางด้านนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยหลังเดินทางมาเยี่ยมชมการทำงานของศิลปินชาวเชียงรายว่า รู้สึกตื้นตันใจที่พี่น้องทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ มาช่วยเหลือคนไทย ที่ทุกคนมีความสามัคคีกัน ยามเรามีปัญหาคนไทยยังรักกันถึงแม้จะมีกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่เมื่อมีปัญหาทุกฝ่ายก็ต่างช่วยกัน จนทำให้เกิดความสำเร็จในการช่วยเหลือน้องๆ และโค้ช ทั้ง 13 คนออกมาอย่างปลอดภัย
สำหรับการก่อสร้างหอศิลป์ที่วนอุทยานถ้ำหลวงนั้น ในวันพรุ่งนีี้ (15 ก.ค.) จะเดินทางเข้าไปเพื่อตรวจสอบว่าจะให้สร้างในจุดใด แต่ที่แน่ๆจะต้องสอดคล้องกับพื้นที่ และยิ่งทราบว่าโครงสร้างของหอศิลป์ดังกล่าวเป็นไม้ยิ่งเหมาะสมกับพื้นที่
เบื้องต้นทราบว่า หอศิลป์ดังกล่าวมีความกว้าง 5 เมตร ยาว 20 เมตร ซึ่งภายในก็จะนำภาพวาดที่เกี่ยวข้องกับการกู้ชีพครั้งนี้ และจะจัดตั้งรูปปั้นของจ่าแซมไว้ที่บริเวณด้านหน้าหอศิลป์ดังกล่าว
นายธัญญา เปิดเผยด้วยว่า ในขณะนี้กำลังพิจารณาที่จะยกระดับ วนอุทยานถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน เป็นอุทยานแห่งชาติ ซึ่งจะทำให้สามารถเก็บค่าเข้าชมได้ และยังสามารถดำเนินการในส่วนต่างๆ ได้มากกว่า ทั้งการพัฒนา และการอนุรักษ์พื้นที่ ซึ่งจะทำให้มีค่ารายได้ที่จะนำมาพัฒนาพื้นที่ได้ และนำมาบริหารจัดการตัวของอุทยานเองได้
ที่มา: หนังสือพิมพ์เชียงใหม่ นิวส์, เว็บไซต์ก้าวไกร เชียงราย
