สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย จัดงานแถลงข่าวความพร้อมทีมฟุตบอลชายและฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ก่อนเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ณ ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 ที่ห้องประชุม ภายในสนามราชมังคลากีฬาสถาน
ภายในงาน กรวีร์ ปริศนานันทกุล เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ร่วมแถลงข่าว พร้อมกล่าวถึงเป้าหมายในซีเกมส์ ครั้งนี้ว่า
“ในส่วนของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ทางนายกสมาคมฯ (พล.ต.อ. ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง) ให้ความสำคัญ ทั้งทีมชายและทีมหญิง โดยมีเป้าหมายที่จะทำให้แฟนบอลชาวไทยมีความสุขกับผลการแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้”
“การเตรียมทีมทางนายกสมาคมฯ ก็ได้แต่งตั้ง อากิระ นิชิโนะ ทำหน้าที่เป็นเฮดโค้ช และ ธชตวัน ศรีปาน ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วย รวมถึง สินทวีชัย หทัยรัตนกุล เป็นผู้จัดการทีม เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักกีฬา เพราะสินทวีชัย ถือเป็นหนึ่งในตำนานของทีมชาติไทยคนหนึ่งก็ว่าได้”
“ในส่วนของความพร้อมนั้น ทีมชาติไทยชาย มีการเก็บตัวมาอย่างต่อเนื่อง และที่ผ่านมาก็มีการเตรียมความพร้อม มีเกมอุ่นเครื่องกับ จีน และ เมียนมา เรามีความตั้งใจที่จะไม่เรียกนักเตะที่อายุไม่เกิน 23 ปี เพราะทาง อากิระ นิชิโนะ เชื่อมั่นในตัวเด็ก และอยากที่จะให้โอกาสแก่เยาวชน ซึ่งผมเชื่อว่าน้องๆ ทุกคนมีศักยภาพพอที่จะรักษาแชมป์ ซีเกมส์ได้”
“ความท้าทายในการแข่งขันฟุตบอลในซีเกมส์ครั้งนี้ คือ การอยู่ร่วมสายกับทีมที่แข็งแกร่ง เราไม่มีเกมที่ง่ายเลย ทั้งการเจอ อินโดนีเซีย, สิงคโปร์, เวียดนาม และบรูไน ถ้าเราผ่านรอบแบ่งกลุ่มไปได้ โอกาสในการคว้าแชมป์ก็ไม่ยากเกินความสามารถ”
“ในการแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้ สนามแข่งขันเป็นสนามหญ้าเทียม ในการเตรียมความพร้อมสมาคมฯ พยายามให้นักกีฬาซ้อมบนหญ้าเทียม เพื่อความคุ้นเคยมากที่สุด เราได้มีการจัดเกมอุ่นเครื่องบนสนามหญ้าเทียมเพื่อให้ทีมได้ปรับตัวอีกด้วย”
“ส่วนฟุตบอลหญิง นักฟุตบอลหลายคน ต่างมีประสบการณ์มากมาย ซึ่งส่วนใหญ่ก็ผ่านฟุตบอลโลกมาแล้ว คิดว่าพร้อมที่จะสร้างชื่อเสียงให้กับทีมได้อีกครั้ง”
“ตอนนี้เท่าที่เราต้องพยายามทำการบ้าน ในการเตรียมความพร้อม คือ ในส่วนของที่พัก และสนามซ้อม เพื่อให้มั่นใจว่า นักกีฬาจะพร้อมที่สุดยามลงสนามแข่งขัน สิ่งที่กังวลก็คือ ที่พัก และสนามซ้อม ที่อาจจะมีระยะทางไกล การเดินทางจากโรงแรมที่พัก ไปสนามอาจจะต้องใช้เวลานานเกินไป ซึ่งเราก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อม ด้วยสภาพการจราจรของฟิลิปปินส์ ก็เป็นการบ้านของสมาคมฯ ที่จะต้องแก้ไข และทำให้ทีมพร้อมมากที่สุด”
“ส่วนเรื่องเงินสนับสนุน เราขอยังไม่เปิดเผย แต่เชื่อว่า นายกสมาคมฯ ก็น่าจะมีของขวัญเพื่อเป็นกำลังใจให้กับน้องๆ นักกีฬาอย่างแน่นอน”
“ในส่วนของทีมชาย ยืนยันแน่นอนว่า นิชิโนะ จะเดินทางไปพร้อมกับทีม ในวันที่ 23 พฤศจิกายน เช่นเดียวกับ 4 นักเตะตัวหลัก ที่อยู่ในทีมชาติชุดใหญ่ ซึ่งจะตามมาสมทบ และเดินทางไปพร้อมกับผู้เล่นในทีมที่เหลือทุกคน”
“ตอนนี้ นิชิโนะ ต้องมุ่งโฟกัสไปที่เกมฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ก่อน ซึ่งเรายังมีโปรแกรมที่ต้องเจอกับทีมชาติเวียดนามที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก แต่หลังจากที่กลับมาแล้ว ก็จะไปเข้าร่วมแคมป์ ฝึกซ้อมในการสู้ศึกซีเกมส์”
“คิดว่า เรามีเวลาในการเตรียมทีมพอสมควร ส่วนผู้เล่นที่เลือกมา ก็เป็นผู้เล่นที่ดีที่สุด เท่าที่เรามี คิดว่าน่าจะมีความพร้อม การเตรียมทีมเราก็เก็บตัวกันมาพอสมควรแล้ว นักเตะที่เล่นอยู่ด้วยกัน น่าจะมีความคุ้นเคย”
“ก่อนที่จะไปถึงซีเกมส์ เราก็พยายามหาโอกาสสัมผัส ฝึกซ้อม เพื่อทำความคุ้นเคยกับสนามหญ้าเทียมให้ได้มากที่สุด เราหวังสองเหรียญทอง ทั้งฟุตบอลชายและฟุตบอลหญิง”
“ส่วนปัจจัยของคุณภาพหญ้าเทียม แน่นอนว่ามีหลายแบบและหลายคุณภาพ เราทำอะไรไม่ได้ เพราะเราไม่สามารถเปลี่ยนสนามแข่งได้ สิ่งที่เราทำได้คือ เราก็ต้องพร้อม ทำความคุ้นเคยกับสนามให้ได้มากที่สุด และนี่คือสิ่งที่เราเตรียมตัวได้มากที่สุด”
สำหรับการแข่งขัน ฟุตบอลชายซีเกมส์ 2019 มีทีมเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 11 ทีม คือ ฟิลิปปินส์ (เจ้าภาพ), ไทย, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, เมียนมา, เวียดนาม, สิงคโปร์, กัมพูชา, บรูไน, ติมอร์ เลสเต และลาว
โดยแบ่งสายการแข่งขันออกเป็นสองกลุ่มดังนี้
- กลุ่ม A : ฟิลิปปินส์ (เจ้าภาพ), มาเลเซีย, เมียนมา, กัมพูชา, ติมอร์ เลสเต
- กลุ่ม B : ไทย, อินโดนีเซีย, เวียดนาม, สิงคโปร์, ลาว, บรูไน
โปรแกรมการแข่งขันของทัพนักเตะ “ช้างศึก” มีดังนี้
- วันที่ 26 พฤศจิกายน 62
15.00 น. ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติอินโดนีเซีย - วันที่ 28 พฤศจิกายน 62
15.00 น. ทีมชาติบรูไน พบ ทีมชาติไทย - วันที่ 1 ธันวาคม 62
15.00 น. ทีมชาติสิงคโปร์ พบ ทีมชาติไทย - วันที่ 3 ธันวาคม 62
15.00 น. ทีมชาติลาว พบ ทีมชาติไทย - วันที่ 5 ธันวาคม 62
15.00 น. ทีมชาติเวียดนาม พบ ทีมชาติไทย - วันที่ 7 ธันวาคม 62 : รอบรองชนะเลิศ
วันที่ 10 ธันวาคม 62 : ชิงอันดับสาม และ รอบชิงชนะเลิศ
ส่วนฟุตบอลหญิง มี 6 ทีม แบ่ง 2 กลุ่ม กลุ่มละ 3 ทีม ดังนี้
- กลุ่ม A : ฟิลิปปินส์, เมียนมา และ มาเลเซีย
- กลุ่ม B : ไทย, อินโดนีเซีย และเวียดนาม
วันที่ 26 พฤศจิกายน 2562
19.00 น. ทีมชาติเวียดนาม พบ ทีมชาติไทย
วันที่ 29 พฤศจิกายน 2562
15.00 น. ทีมชาติอินโดนีเซีย พบ ทีมชาติไทย
สำหรับรอบรองชนะเลิศ แข่งขันกันวันที่ 5 ธันวาคม 2562 และ รอบชิงชนะเลิศ วันที่ 8 ธันวาคม 2562
