ตลาดหุ้นเอเชีย ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (14 พ.ย.) เปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความระมัดระวังตัวของนักลงทุน และการรอดูข้อมูลเศรษฐกิจจีน เพื่อหาข้อสรุปว่า การทำสงครามการค้าระหว่างจีน กับสหรัฐ ที่เกิดขึ้นมานาน 16 เดือน จะส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจแดนมังกร ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกมากน้อยเพียงใด
ดัชนีนิกเคอิ ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ของญี่ปุ่น เคลื่อนไหวล่าสุดบวก 19.30 จุด หรือ 0.08% ที่ 23,339.17 จุด ดัชนีฮั่งเส็ง ของฮ่องกงลดลง 115.62 จุด หรือ 0.44% ที่ 26,455.84 จุด ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ ของจีนลบ 1.04 จุด หรือ 0.04% ที่ 2,904.20 จุด และดัชนีสเตรทไทมส์ ของสิงคโปร์ลดลง 2.17 จุด หรือ 0.07% ที่ 3,237.05 จุด
ขณะที่ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ 27,783.59 จุด เพิ่มขึ้น 92.10 จุด หรือ 0.33% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,094.04 จุด เพิ่มขึ้น 2.20 จุด หรือ 0.07% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 8,482.10 จุด ลดลง 3.99 จุด หรือ 0.05%
นักลงทุนกำลังพยายามที่จะตัดสินใจว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่รัฐบาลปักกิ่งดำเนินมาถึงตอนนี้ ได้ช่วยป้องกันการชะลอตัวของเศรษฐกิจหรือไม่ แม้จะมีแนวโน้มว่า ความเชื่อมั่นจะยังไม่กลับคืนมาอย่างสมบูรณ์จนกว่าที่การแก้ปัญหาเรื่องการค้าระหว่างจีน กับสหรัฐ จะสำเร็จ
นักวิเคราะห์ชี้ว่า ตลาดพยายามหาปัจจัยที่จะช่วยหนุนการทะยานขึ้น แต่ก็ตระหนักดีกว่า เรื่องสงครามการค้าเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ซึ่งถ้าตัวเลขเศรษฐกิจจีนออกมาซบเซา ก็จะไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจแต่อย่างใด
ปัจจัยลบที่กดดันตลาดอยู่ ยังรวมถึงสถานการณ์ประท้วงในฮ่องกง ที่ยืดเยื้อมานาน และมีความรุนแรงมากขึ้น
อย่างไรก็ดี ขาลงของตลาดยังได้แรงสกัด จากถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารสหรัฐ (เฟด) ที่ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะมีการขยายตัวที่ยั่งยืน โดยได้รับแรงหนุนจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ย พร้อมส่งสัญญาณว่าเฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยต่อไป ตราบเท่าที่ข้อมูลเศรษฐกิจยังสอดคล้องกับมุมมองของเฟดที่ว่า เศรษฐกิจจะมีการขยายตัวปานกลาง ตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่ง และอัตราเงินเฟ้ออยู่ใกล้เป้าหมายที่ระดับ 2%
ทางด้านราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท ของสหรัฐ ในตลาดเอเชียช่วงเช้าวันนี้ ขยับขึ้นมา 0.47% ที่ 57.39 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังนายโมฮัมหมัด บาร์คินโด เลขาธิการกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ระบุว่า การผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดานของสหรัฐ จะขยายตัวน้อยกว่าที่คาดไว้อย่างมากในปีหน้า
เขายังแสดงความเชื่อมั่นว่า โอเปค และกลุ่มพันธมิตรจะควบคุมการผลิตอย่างต่อเนื่องในปี 2563
