Economics

‘บินโลว์คอสต์’ ยื่นคลังทบทวนภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบิน

สายการบินโลว์คอสต์ ยื่นหนังสือคลัง ทบทวนภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบินไอพ่น ลดผลกระทบ เหตุผู้โดยสารหาย 5% รับปีหน้าเจองานหนัก คาดหลายสายการบินต้องลดเที่ยวบินเส้นทางหลัก

นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง กล่าวว่า วันนี้ (13 พ.ย.) ได้รับหนังสือจาก นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานกรรมการบริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย ในฐานะตัวแทนสายการบินต้นทุนต่ำ 5 แห่ง เพื่อเสนอให้ “ทบทวนเก็บภาษีสรรพสามิตสำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินไอพ่นลดลง” หลังจากรัฐบาลได้ปรับเพิ่มภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบินไอพ่นตั้งแต่ กันยายน 2562 ที่ผ่านมา จัดเก็บภาษีในอัตรา 4.726 บาทต่อลิตร เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับการใช้น้ำมันดีเซลและเบนซิน

640061 ปก

ภายหลังการหารือ ตนจะนำเรื่องเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อตั้งคณะกรรมการร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชน พิจารณาข้อเสนอในการขอลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบินไอพ่น จากปัจจุบัน 4.726 บาทต่อลิตร จนเมื่อเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้นในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ค่อยทยอยตัดสินใจจัดเก็บภาษีเหมือนเดิม หรือเลือกแนวทางเทียบเคียงกับค่าเงินบาทแบบขั้นบันได

640065
ชาญกฤช เดชวิทักษ์

อาทิ หากค่าเงินบาทเคลื่อนไหว 30-32 บาทต่อดอลลาร์ จัดเก็บในอัตราหนึ่ง และเคลื่อนไหวในระดับราคา 33-34 บาทต่อดอลลาร์ จัดเก็บในอัตราหนึ่ง กระทรวงการคลัง จึงรับข้อเสนอมาพิจารณาแนวทางดังกล่าว เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกช่องทางหนึ่ง

นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานกรรมการบริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า สายการบินต้นทุนต่ำได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัว โดยในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ผลของเศรษฐกิจที่ชะลอตัวกระทบต่อการท่องเที่ยวในประเทศ จำนวนผู้โดยสารจากเดิมเกือบเต็มเครื่อง 80-100 % ต่อเที่ยวบิน ลดลงเหลือ 70-80 % และยังได้รับผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง กระทบต่อการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวของต่างชาติ รวมไปถึงการแบกรับภาระต้นทุนจากการสต็อกน้ำมันของสายการบิน

640068

“เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ เป็นเส้นทางยอดนิยม แอร์เอเชียแบกรับภาระภาษีแทนผู้โดยสาร 150 บาทต่อลิตร จากค่าตั๋ว 1,200 บาทต่อเที่ยวบิน โดยขณะนี้เริ่มแบกรับภาระต้นทุนไม่ไหว และไม่สามารถผลักภาระเพิ่มค่าโดยสารได้ โดยสายการบินต้นทุนต่ำทั้ง 5 ราย ต่างประสบปัญหาขาดทุนมากขึ้น เพราะยอดผู้โดยสารลดลง 4-5 % ในต้นปีหน้าอาจเห็นหลายแห่งมีปัญหามากขึ้น จึงต้องขอให้รัฐบาลช่วยเหลือในเรื่องดังกล่าว”

ขณะที่หลายสายการบินปรับกลยุทธ์ด้วยการลดเที่ยวบิน 15% ในเส้นทางหลักทั้งเชียงใหม่ กระบี่ ภูเก็ต รวมทั้งชะลอการซื้อเครื่องบินเพิ่มในปี 2563 และขอประเมินการท่องเที่ยวในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2563

อย่างไรก็ตาม แม้ว่ารัฐบาลเปิดทางให้โครงการชิมช้อปใช้เฟส 3 ได้นำค่าตั๋วเครื่องบินรวมอยู่แพ็คเกจทัวร์ สำหรับการท่องเที่ยวผ่านชิมช้อปใช้ เพื่อส่งเสริมการคนไทยท่องเที่ยวมากขึ้น แต่ยังต้องช่วยเหลือผ่านอีกหลายมาตรการ เพื่อให้สายการบินดีขึ้นจากผลขาดทุนในปัจจุบัน

Avatar photo