ผู้เข้าพัก Airbnb ทั่วโลกใช้จ่าย 8.08 แสนล้านบาท หนุนธุรกิจร้านอาหารและคาเฟ่เติบโต ด้านผู้เข้าพัก Airbnb ในไทยใช้จ่ายผ่านร้านอาหารและคาเฟ่ท้องถิ่นกว่า 6,800 ล้านบาทช่วยสร้างรายได้ท่องเที่ยวชุมชนและกระตุ้นเศรษฐกิจเติบโต จากปัจจุบัน Airbnb ให้บริการที่พักกว่า 7 ล้านแห่งใน 191 ประเทศทั่วโลก
ผลการสำรวจและการวิเคราะห์ ข้อมูลภายในล่าสุดของ Airbnb พบว่า ในปี 2561 ผู้เข้าพักของ Airbnb ใช้จ่ายอย่างน้อย 8.08 แสนล้านบาทที่ร้านอาหาร และคาเฟ่ โดยอ้างอิงข้อมูลจาก 46 ประเทศและภูมิภาค นอกจากนั้นยังคาดการณ์ว่าในปี 2562 ผู้เข้าพัก Airbnb จะมีการใช้จ่ายมากกว่า 9.4 แสนล้านบาทในร้านอาหารและคาเฟ่ทั่วโลก
สำหรับในประเทศไทยซึ่งมีชื่อเสียงด้านอาหาร ผู้เข้าพัก Airbnb ในไทยใช้จ่ายประมาณ 6,800 ล้านบาท ในร้านอาหารและคาเฟ่ในปี 2561 โดยจากการสำรวจพบว่า เจ้าของที่พัก 84% บอกว่า ได้แนะนำร้านอาหารและคาเฟ่แก่ผู้เข้าพัก ซึ่งเป็นการช่วยเพิ่มลูกค้าให้กับร้านที่อาจค้นไม่เจอในอินเทอร์เน็ต ขณะที่ผู้เข้าพักครึ่งหนึ่งระบุว่า เวลาเดินทางมักเลือกเข้าพักในที่พัก Airbnb ซึ่งช่วยให้ชุมชนที่อยู่นอกแพลตฟอร์มได้รับประโยชน์ไปด้วย
นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้เข้าพัก Airbnb ระบุว่า พวกเขาใช้จ่ายประมาณ 42% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมดในละแวกที่พวกเขาพัก ซึ่งช่วยให้ท้องถิ่นได้รับประโยชน์และเกิดการกระจายรายได้จากการเดินทางและท่องเที่ยว นอกเหนือไปจากย่านท่องเที่ยวเดิมๆ โดยที่ขณะที่ร้านอาหารและคาเฟเหล่านี้เป็นที่รวมตัวของชุมชน และ 77% ของผู้เข้าพักระบุว่า อยากลองใช้ชีวิตเหมือนคนท้องถิ่น จึงตัดสินใจเลือกพักที่พัก Airbnb
ทั้งนี้พบว่า การใช้จ่ายของผู้เข้าพัก Airbnb ในร้านอาหารและคาเฟ่ทั่วโลกกำลังเพิ่มสูงขึ้น โดยในยุโรป ผู้เข้าพัก Airbnb ใช้จ่ายที่ร้านอาหารและคาเฟ่ 3.56 แสนล้านบาทโดยประมาณในปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นยอดใช้จ่ายในฝรั่งเศสกว่า 8.7 หมื่นล้านบาท, สเปน 5.5 หมื่นล้านบาท, และอังกฤษ 4.2 หมื่นล้านบาท ส่วนในทวีปอเมริกาผู้เข้าพัก Airbnb ใช้จ่ายในร้านอาหารและคาเฟ่ อย่างน้อย 3.3 แสนล้านบาทในปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นยอดใช้จ่ายในสหรัฐอเมริกา 2.46 แสนล้านบาท, แคนาดา 3.2 หมื่นล้านบาท และ ในเม็กซิโก 2.1 หมื่นล้านบาท
สำหรับในเอเชีย ผู้เข้าพัก Airbnb ใช้จ่ายในร้านอาหารและคาเฟ่อย่างน้อย 7.8 หมื่นล้านบาท ในปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นยอดใช้จ่าย ในญี่ปุ่น 2.4 หมื่นล้านบาท, ในจีน 1.6 หมื่นล้านบาท นอกจากนั้น ในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ 3.6 หมื่นล้านบาท และใน แอฟริกาใต้ประมาณ 5,000 ล้านบาท
