ตลาดหุ้นเอเชีย ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (8 พ.ย.) แนวโน้มขาขึ้น หลังจากที่จีนออกมาระบุว่า เห็นพ้องกับสหรัฐ ที่จะยกเลิกการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าเป็นระยะ ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องหลักของรัฐบาลปักกิ่ง ในการทำข้อตกลง เพื่อยุติสงครามการค้า ที่ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง และตลาดทั่วโลกตกอยู่ในภาวะผันผวนอย่างหนัก
ดัชนีนิกเคอิ ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ของญี่ปุ่น เคลื่อนไหวล่าสุด บวก 88.62 จุด หรือ 0.38% ที่ 23,418.94 จุด ดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกง เจอกับแรงเทขายทำกำไร ลดลง 115.85 จุด หรือ 0.42% ที่ 27,731.38 จุด ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ ของจีน เพิ่มขึ้น 5.48 จุด หรือ 0.18% ที่ 2,984.19 จุด และดัชนีสเตรทไทมส์ ของสิงคโปร์ บวก 24.28 จุด หรือ 0.74% ที่ 3,261.44 จุด
ขณะที่ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ของสหรัฐ ปิดซื้อขายเมื่อคืนนี้ (7 พ.ย.)ที่ 27,674.80 จุด เพิ่มขึ้น 182.24 จุด หรือ 0.66% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,085.18 จุด เพิ่มขึ้น 8.40 จุด หรือ 0.27% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 8,434.52 จุด เพิ่มขึ้น 23.89 จุด หรือ 0.28%
สหรัฐและจีน ต่างเห็นพ้องถึงเรื่องการขึ้นภาษีนำเข้าต่อสินค้าของแต่ละฝ่าย เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงการค้าส่วนแรก ซึ่งถือเป็นสัญญาณความคืบหน้ามากขึ้น แม้ว่ายังต้องเจรจากันในอีกหลายเรื่องก็ตาม
อย่างไรก็ดี แม้กระทรวงพาณิชย์จีน จะแถลงถึงเรื่องการยกเลิกภาษีเป็นระยะๆ แต่ก็ไม่ได้ให้กำหนดเวลาอย่างชัดเจน ทั้งแหล่งข่าววงในหลายราย ระบุว่า แผนการดังกล่าวเผชิญกับการคัดค้านภายในอย่างหนัก ทั้งจากทำเนียบขาว และจากที่ปรึกษาภายนอก
นักวิเคราะห์ชี้ว่า การที่ความขัดแย้งระหว่างจีน กับสหรัฐ ดูเหมือนจะมีทางออก ควบคู่ไปกับที่เศรษฐกิจพัฒนาแล้วหลายชาติ นำนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายอย่างมากเข้ามาใช้ ทำให้นักลงทุนเข้าลงทุนในตลาดมากขึ้น
ทางด้านราคาน้ำมันในตลาดเอเชียช่วงเช้าวันนี้ แทบจะไม่เปลี่ยนแปลง โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียท ของสหรัฐ ขยับลงมา 0.1% ที่ 57.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาทองคำลดลงมาอยู่ที่ 1,467.9 ดอลลาร์ต่อออนซ์
