สัญญา “ไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน” เขียนชัด! “กลุ่ม CP” เก็บค่าโดยสาร “แอร์พอร์ต เรล ลิงก์” ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ ได้สูงสุด 97 บาทต่อเที่ยว แถมมีสิทธิปรับราคาตามอัตราเงินเฟ้อ ด้านการก่อสร้างหากล่าช้า “CP” จะถูกปรับวันละ 11 ล้านบาท
รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (6 พ.ย.) เว็บไซต์ www.railway.co.th ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และเว็บไซต์ www.eeco.or.th ของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ได้เผยแพร่สัญญาและเอกสารแนบท้ายสัญญา “โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา วงเงิน 2.2 แสนล้านบาท” ระหว่างการรถไฟฯ และบริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จำกัด (กลุ่ม CP) ให้สื่อมวลชนและสาธารณชนช่วยตรวจสอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การรถไฟฯ ได้เปิดเผยข้อมูลสาระสำคัญของสัญญาร่วมทุน (PPP) และวิธีการคัดเลือกเอกชน โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินบนเว็บไซต์ เพื่อให้เป็นไปตามประกาศของคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) และเพื่อให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้
โดยสัญญา PPP ระหว่างรัฐและเอกชน ได้กำหนดให้การรถไฟฯ มีหน้าที่ให้สิทธิเอกชนคู่สัญญาร่วมลงทุนในรถไฟความเร็วสูง, รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ช่วงพญาไท-สนามบินสุวรรณภูมิ และส่วนต่อขยาย ช่วงดอนเมือง-บางซื่อ-พญาไท, สิทธิการพัฒนาพื้นที่เพื่อสนับสนุนบริการรถไฟฯ ของโครงการ และสิทธิการดำเนินกิจการทางพาณิชย์แก่เอกชนคู่สัญญา นอกจากนี้ การรถไฟฯ มีหน้าที่จัดหาและชำระเงินที่รัฐร่วมลงทุนในโครงการฯ แก่กลุ่ม CP รวมถึงจัดหาและส่งมอบพื้นที่ของโครงการฯ ให้แก่กลุ่ม CP
ด้านกลุ่ม CP มีสิทธิและหน้าที่ในการดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูง, รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ และส่วนต่อขยาย, การพัฒนาพื้นที่เพื่อสนับสนุนบริการรถไฟฯ ของโครงการฯ และการดำเนินกิจการทางพาณิชย์
แบ่งหน้าที่การรถไฟฯ-กลุ่ม CP
ด้านการรถไฟฯ มีสิทธิได้รับผลประโยชน์จากเอกชนคู่สัญญาดังนี้
1.ส่วนแบ่งรายได้ (Revenue sharing) ในระหว่างการให้บริการเดินรถในส่วนของรถไฟความเร็วสูง, รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ และส่วนต่อขยาย, การพัฒนาพื้นที่เพื่อสนับสนุนบริการรถไฟของโครงการฯ และการดำเนินกิจการทางพาณิชย์ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในสัญญา PPP
2.ค่าให้สิทธิเอกชนคู่สัญญาร่วมทุนในแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ จำนวน 10,671 ล้านบาท
3.ค่าเช่าพื้นที่เพื่อสนับสนุนบริการรถไฟของโครงการฯ ตามอัตราที่กำหนดไว้ในสัญญา PPP โดยเอกชนคู่สัญญาจะต้องชำระเป็นรายปีนับตั้งแต่วันที่เริ่มระยะเวลาการพัฒนาพื้นที่ เพื่อสนับสนุนบริการรถไฟของโครงการฯ
ด้านกลุ่ม CP มีสิทธิได้รับผลประโยชน์จากโครงการฯ คือ รายได้จากการดำเนินโครงการฯ ในส่วนรถไฟความเร็วสูง, รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ และส่วนต่อขยาย, การพัฒนาพื้นที่เพื่อสนับสนุนบริการรถไฟของโครงการฯ และการดำเนินกิจการทางพาณิชย์ ภายหลังแบ่งส่วนแบ่งรายได้แก่การรถไฟฯ แล้ว
ขณะเดียวกันกลุ่ม CP มีสิทธิได้รับเงินที่รัฐร่วมลงทุนในโครงการฯ เป็นจำนวนไม่เกิน 149,650 ล้านบาท ซึ่งภาครัฐจะชำระเป็นระยะเวลา 10 ปี ปีละเท่าๆ กันนับตั้งแต่เปิดให้บริการรถไฟความเร็วสูง ขณะเดียวกันก็มีสิทธิได้รับการส่งเสริมการลงทุนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุนและสิทธิประโยชน์ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
ด้านระยะเวลาโครงการฯ เท่ากับระยะเวลาการดำเนินงานรถไฟความเร็วสูงซึ่งอยู่ที่ 50 ปี โดยทรัพย์สินในโครงการทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นรถไฟความเร็วสูง, แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ และส่วนต่อขยาย รวมถึงการพัฒนาพื้นที่เพื่อสนับสนุนบริการรถไฟฯ ของโครงการ และการดำเนินกิจการทางพาณิชย์ จะต้องเป็นกรรมสิทธิ์ของการรถไฟฯ เมื่อสัญญาสิ้นสุดลง
ล่าช้าถูกปรับวันละ 11 ล้านบาท
สำหรับการรถไฟฯ จะต้องส่งมอบพื้นที่โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงและรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ส่วนต่อขยาย ช่วงพญาไท-สนามบินดอนเมือง ให้แก่กลุ่ม CP ภายใน 2 ปี นับจากวันลงนามสัญญา
หากส่งมอบไม่ได้ โดยไม่ใช่ความผิดของเอกชน สิทธิของคู่สัญญาจะเป็นไปตามกฎหมายไทย โดยกรณีที่ยังไม่มีการเลิกสัญญา PPP จะไม่มีการชดเชยค่าเสียหายเป็นตัวเงิน แต่จะชดเชย โดยการขยายระยะเวลาการออกแบบและก่อสร้างออกไปอย่างเหมาะสมและเป็นธรรมเท่านั้น
ทั้งนี้ หากกลุ่ม CP ไม่สามารถออกแบบและก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงได้ภายในระยะเวลา 5 ปี หรือภายในระยะเวลาที่ได้รับการขยายจากการรถไฟฯ เอกชนต้องจ่ายค่าปรับให้การรถไฟฯ เป็นจำนวนเงิน 9 ล้านบาทต่อวัน แต่หากออกแบบและก่อสร้างรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ส่วนต่อขยาย ไม่เสร็จภายในระยะเวลา 5 ปี ก็ต้องชำระค่าปรับเป็นเงิน 2.28 ล้านบาทแก่การรถไฟฯ หรือรวมแล้วเป็นเงิน 11.28 ล้านบาทต่อวัน
กรณีที่ความล่าช้าก่อให้เกิดความเสียหายแก่การรถไฟฯ และค่าเสียหายมีจำนวนมากกว่าค่าปรับ เอกชนคู่สัญญาจะต้องชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าวแก่การรถไฟฯ เท่ากับค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจริง
ค่าโดยสาร “แอร์พอร์ตลิงก์” 97 บาท
สำหรับอัตราค่าโดยสารรถไฟความเร็วสูงและรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ตามสัญญาเป็นไปดังนี้
- การจัดเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ช่วงพญาไท-สุวรรณภูมิ จะต้องมีอัตราไม่เกิน 45 บาทต่อเที่ยวเท่ากับปัจจุบัน แต่เมื่อมีการเปิดให้บริการส่วนต่อขยายอีก 2 สถานี ได้แก่ สถานีดอนเมืองและบางซื่อ ก็สามารถเก็บค่าโดยสารได้สูงสุดไม่เกิน 97 บาทต่อเที่ยว
- การจัดเก็บค่าโดยสารรถไฟความเร็วสูงตลอดเส้นทางต้องอยู่ในอัตราไม่เกิน 490 บาทต่อเที่ยว
ทั้งนี้ การปรับอัตราค่าโดยสารจะเป็นไปตามดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งประกาศโดยกองสารสนเทศและดัชนีเศรษฐกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบ ตามระยะเวลาและแนวทางการคำนวณที่กำหนดไว้ในสัญญา PPP
- ไฮไลท์ ‘ไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน’
- ‘อนุทิน’ มั่นใจโครงการไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบินไปลิ่ว ไร้อุปสรรค
- ‘CP’ อัดฉีด 1.4 แสนล้าน ปั้นที่ดิน ‘มักกะสัน’ เร่งระดมทุนรองรับ ‘ไฮสปีด’
- แค่ 3 วัน!! เปิดข้อมูล ‘บริษัทใหม่ CP’ ที่จะลงนาม ‘ไฮสปีด’ พรุ่งนี้
- ลงนาม ‘ไฮสปีด’ 24 ต.ค. ‘ศักดิ์สยาม’ พร้อมเผยแพร่ ‘สัญญา’ ให้ตรวจสอบ