เกาหลีใต้ออกโรงเตือน ความขัดแย้งทางการค้าที่รุนแรงขึ้นระหว่างจีน กับสหรัฐ อาจกระทบกับการส่งออก “สินค้าขั้นกลาง” ที่ใช้สำหรับการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์สื่อสาร
กระทรวงการค้าเกาหลีใต้ แถลงว่า สงครามการค้าที่เกิดขึ้น อาจยืดเยื้อ และขยายวงกว้างขึ้น จึงจำเป็นที่จะต้องมีการเตรียมแผนรับมือไว้ กรณีที่อาจเกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจขึ้น
“เราได้มีการวิเคราะห์ว่าสินค้าประเภทใดบ้างที่จะได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจะปนเปกันไป มีทั้งในแง่บวก และด้านลบ เช่น ผู้ส่งออกเกาหลีบางราย อาจได้ส่งสินค้าไปแทนที่สินค้าจีนที่โดนภาษี” นายกัง ซุง ชุน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการค้าเกาหลีใต้ ระบุ
ทั้งนี้ เกาหลีใต้ถือเป็นคู่ค้ารายใหญ่สุดอันดับ 3 ของจีน รองจากสหรัฐ และญี่ปุ่น โดยสินค้าหลักๆ ที่ส่งออกไปยังจีน รวมถึง ชิพ ปิโตรเคมี เหล็ก และชิ้่นส่วนรถยนต์
ทางด้านนายคิม ดอง ยอน รัฐมนตรีคลังเกาหลีใต้ ก็ออกมาเตือนเช่นกันว่า หากความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ขยายวงกว้างไปอยู่ในระดับโลก จะทำให้เกิดความเสี่ยงขาลงอย่างมาก ต่อเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ที่พึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก
“แม้จนถึงขณะนี้ ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ จะส่งผลกระทบในวงจำกัด แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ยังมีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวลง และหากความขัดแย้งขยายวงกว้าง เข้าไปถึงตลาดโลก ก็จะทำให้ปริมาณการค้าโลกหดตัวลง”
ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้เสี่ยงหนัก
ขณะที่รายงานของธนาคารโอซีบีซี ระบุว่า เพื่อนบ้านที่ติดกับจีนมากสุด คือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และฮ่องกง มีความเสี่ยงอย่างมากต่อสงครามการค้าจีน-สหรัฐ เพราะประเทศเหล่านี้ เป็นผู้ส่งออกสินค้าขั้นกลางไปยังจีน
ธนาคารรายนี้ประเมินด้วยว่า ในกรณีที่สหรัฐจัดเก็บภาษีนำเข้าต่อสินค้าจีนเป็นมูลค่า 250,000 ล้านดอลลาร์นั้น อาจจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของเกาหลีใต้ และญี่ปุ่นราว 0.3% และ 0.2% ตามลำดับ
หั่นคาดการณ์ศก.ปี 61
ในวันนี้ (12 ก.ค.) ธนาคารกลางเกาหลีใต้ ยังปรับลดแนวโน้มการเติบโตสำหรับปี 2561 ลงมาอยู่ที่ 2.9% จากเดิมที่ประเมินไว้ 3.0% หลังจากที่ภาวะเฟื่องฟูในการส่งออกสะดุดลงเมื่อเดือนมิถุนายน ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าที่เพิ่มขึ้นระหว่างจีนกับสหรัฐ
เหล่าประเทศผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ รวมถึง เกาหลีใต้ ยังเตรียมพร้อมรับมือกับการที่สหรัฐจะเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ และชิ้นส่วนรถยนต์ จากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งการให้ตรวจสอบสินค้านำเข้าในภาคอุตสาหกรรมนี้ว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศหรือไม่ ซึ่งคาดว่าการตรวจสอบจะแล้วเสร็จภายในเดือนนี้
สหภาพแรงงานบริษัทฮุนได มอเตอร์ ค่ายรถยนต์รายใหญ่ของแดนโสมขาว กล่าวในวันเดียวกันนี้ว่า การขึ้นภาษีดังกล่าว อาจทำให้ต้องปิดโรงงานผลิตรถยนต์ของบริษัทในสหรัฐ ซึ่งจะทำให้ตำแหน่งงาน 20,000 ตำแหน่งตกอยู่ในความเสี่ยง
นอกจากนี้ การขึ้นภาษียังจะสร้างความเสียหายให้กับระบบการค้าเป็นธรรม และสร้างรอยร้าวในความเป็นพันธมิตรระหว่างสหรัฐ กับเกาหลีใต้
