ตลาดหุ้นเอเชียซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (6 พ.ย.) ไร้ทิศทางชัดเจน จากการที่นักลงทุนรอดูทิศทางของข้อตกลงการค้าระหว่างจีน กับสหรัฐ ขณะที่บางตลาดเจอกับการเข้าช้อนซื้อเก็งกำไร
ดัชนีนิกเคอิ ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ญี่ปุ่น เคลื่อนไหวล่าสุดปรับขึ้นมา 12.92 จุด หรือ 0.06% ที่ 23,264.91 จุด ดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกงลดลง 85.47 จุด หรือ 0.31% ที่ 27,597.93 จุด ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ ขยับลงมา 3.03 จุด หรือ 0.10% ที่ 2,988.54 จุด และดัชนีสเตรทไทมส์ ของสิงคโปร์บวก 6.27 จุด หรือ 0.19% ที่ 3,254.90 จุด
ขณะที่ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ของสหรัฐ ปิดซื้อขายเมื่อคืนนี้ที่ 27,492.63 จุด เพิ่มขึ้น 30.53 จุด หรือ 0.11% ดัชนีแนสแด็กปิดที่ 8,434.68 จุด เพิ่มขึ้น 1.48 จุด หรือ 0.02% และดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,074.62 จุด ลดลง 3.65 จุด หรือ 0.12%
นักวิเคราะห์ชี้ว่า สงครามการค้าเป็นสาเหตุใหญ่สุด ที่ทำให้การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกอ่อนตัวลงในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งนักลงทุนต้องการเห็นภาษีที่ลดลง และยังรอสัญญาณที่ชัดเจนถึงการแก้ปัญหาเรื่องนี้อยู่
ตลาดตั้งความหวังว่า จีน และสหรัฐ จะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าส่วนแรกได้ และทำให้การขึ้นภาษีทุ่มตลาด ที่ทั้ง 2 ฝ่ายต่างเรียกเก็บจากสินค้าของแต่ละประเทศลดลงอย่างน้อยก็บางส่วน แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน จะมีกำหนดพบปะกัน เพื่อลงนามข้อตกลงดังกล่าวเมื่อใด
ทางด้านราคาน้ำมันตลาดเอเชียช่วงเช้าวันนี้ ขยับตัวลงมาเล็กน้อย โดยที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียท ลดลงมา 0.35% ที่ 57.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ส่วนค่าเงินดอลลาร์ล่าสุดอยู่ที่ 109.16 เยนต่อดอลลาร์ ใกล้แตะระดับแข็งค่าสุดที่ทำไว้ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา และอยู่ที่ระดับ 1.1075 ดอลลาร์ต่อยูโร ซึ่งเป็นระดับแข็งค่าสุดนับแต่วันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา
