Properties

‘แอลพีเอ็น’ ยืนหนึ่ง แชมป์เปิดขายคอนโดมากสุด ‘รอบ 10 ปี’

ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมในประเทศไทยในช่วง 10 ปีที่ผ่านถือว่าค่อนข้างเติบโตเป็นอย่างมาก โดยพบว่ามีอุปทานเปิดขายใหม่เข้ามาในตลาดมากกว่า 600,000 ยูนิต โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานครมีผู้ประกอบการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมใหม่กว่า 493,140 ยูนิต

ลุมพินี ทาวน์ชิป รังสิต คลอง 1

นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ประกอบการหลายรายมีการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่กระจายตัวทั้งในเขตกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล รวมถึงเมืองท่องเที่ยวชั้นนำอย่างพัทยาใน จ. ชลบุรี และ ในพื้นที่อำเภอหัวหิน ในจังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งบางโครงการตั้งอยู่บนพื้นที่เกือบ 100 ไร่ จำนวนยูนิตขายมากกว่า 10,000 ยูนิต เนื่องจากราคาที่ดินยังไม่สูงมากเมื่อเทียบกับในส่วนของพื้นที่กรุงเทพฯใจกลางเมือง

ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ได้สำรวจในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา พบว่ามีโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ที่มียูนิตขายมากกว่า 2,000 ยูนิตกว่า 20 โครงการ นำโดย บมจ. แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ เปิดขายมากกว่า 2,000 ยูนิต / โครงการ โดยมีมากถึง 8 โครงการ มีจำนวนยูนิตขายรวมกว่า 30,076 ยูนิต

คอลลิเออร์

อันดับสอง ได้แก่ บจ. รีเจ้นท์ กรีน เพาเวอร์ พัฒนาโครงการ รีเจ้นท์โฮม บางซ่อน ในเฟส 1,2 จำนวนยูนิตขายกว่า 8,974 ยูนิต ตามด้วย บมจ. พฤกษา เรียลเอสเตท จำนวน 2 โครงการ มีหน่วยขยายทั้งหมดประมาณ 7,248 ยูนิต คือโครงการ พลัมคอนโด พหลโยธิน 89 และโครงการ พลัมคอนโด พาร์ค รังสิต 3 เฟส

ขณะที่ 5 อันดับคอนโดมิเนียมในประเทศไทยที่มียูนิตขายเยอะที่สุดในประเทศไทยของคอนโดมิเนียมที่เปิดขายในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ยังคงนำโดย บมจ. แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ ใน โครงการลุมพินี ทาวน์ชิป รังสิต-คลอง 1 ที่มีจำนวนห้องชุด 10,074 ยูนิต ตามด้วย รีเจ้นท์โฮม บางซ่อน พัฒนาโดย บจ. รีเจ้นท์ กรีน เพาเวอร์ ยูนิตขายรวม 8,974 ยูนิต, ดิ เอนเนอร์จี้ หัวหิน เฟส 1,2 โดย บจ. บ้านราชประสงค์ ยูนิตขาย 6,526 ยูนิต, รีเกิล สุขุมวิท 76 พัฒนาโดย บจ. ไฮไชน์ ดีเวลลอปเม้นท์ กรุ๊ป จำนวน 4,931 ยูนิต และ พลัมคอนโด พหลโยธิน 89 โดย บมจ. พฤกษา เรียลเอสเตท ยูนิตขายกว่า 4,116 ยูนิต

Regent Home Bangson 2

อย่างไรก็ตาม การพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ที่มียูนิตขายจำนวนมากกว่า 2,000 ยูนิต / โครงการขึ้นไป ผู้ประกอบการต้องระมัดระวังในการพัฒนาโครงการเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่มีจำนวนหน่วยขายค่อนข้างมากใช้เงินประมาณในการลงทุนที่ค่อนข้างสูง ซึ่งบางโครงการสูงกว่า 16,000 ล้านบาท จึงต้องศึกษาตลาดโดยเฉพาะกำลังซื้อและความต้องการของลูกค้าหรือดีมานด์ว่ามีเพียงพอหรือไม่

นอกจากนี้ ยังแนะนำว่า ควรแบ่งการพัฒนาเป็นเฟสๆ ไป เพราะหากกำลังซื้อในพื้นที่ไมได้มีเพียงพอกับสินค้าที่พัฒนาออกไป ที่ดินในส่วนที่เหลือผู้ประกอบการจะสามารถนำไปพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในรูปแบบอื่นๆ ได้

Avatar photo