ตลาดหุ้นไทยเดินทางมาถึงโค้งสุดท้ายของปี 2562 แล้ว ท่ามกลางความผันผวนอย่างกับเล่นรถไฟเหาะ เมื่อสถานการณ์เป็นแบบนี้หลายคนจึงหันมาใช้ “กลยุทธ์ลงทุนแบบเฝ้ารอ” (Wait & See) โดยชะลอการเทรดไปก่อน ถือเงินสดในมือไว้ให้แน่น
แต่ขณะเดียวกันในช่วงที่เหมือนเป็นวิกฤตแบบนี้ บางทีอาจเป็น “โอกาส” สำหรับคนที่มองเห็นก็ได้ ในการดักเก็บหุ้นพื้นฐานดี ราคาถูก ซึ่ง P/E เป็นเครื่องมือยอดนิยมที่ถูกนำมาใช้วัดมูลค่าถูกแพงของการลงทุนในหุ้น
P/E Ratio คือ อัตราส่วนทางการเงินที่เทียบกันระหว่าง Price (ราคา) หารด้วย Earning Per Share (กำไรสุทธิต่อหุ้น) ซึ่งตัวเลขที่ได้จะบอกเราว่า ถ้าซื้อหุ้นที่ราคาเท่านี้ ณ ตอนนี้ จะได้ทุนคืนในกี่ปี หากบริษัทยังทำกำไรได้เท่าเดิมในทุกๆ ปี หรือพูดง่ายๆ คือ “ซื้อตอนนี้ อีกกี่ปีคืนทุน”
ซึ่งค่า P/E Ratio ยิ่งต่ำยิ่งดี เพราะหมายความว่าเราได้หุ้นราคาถูก เช่น หุ้น A มี P/E ที่ 10 เท่า แปลว่า ซื้อหุ้น A ตอนนี้ อีก 10 ปีคืนทุน หรือ หุ้น B มี P/E ที่ 15 เท่า แปลว่า ซื้อหุ้น A ตอนนี้ อีก 15 ปีคืนทุน
การสแกนหาหุ้นพื้นฐานดีที่ P/E ต่ำๆ สามารถช่วยการันตีความปลอดภัยขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง และนี่คือ 10 หุ้น P/E ที่เราคัดมาฝาก (ข้อมูลราคา ณ วันที่ 1 พ.ย. 62)
อย่างไรก็ดี แม้หุ้น P/E ต่ำ จะเป็นหุ้นประเภทหนึ่งที่น่าสนใจ แต่เราก็ต้องพิจารณาให้รอบด้าน เพราะบางทีอาจจะแฝงด้วยปัจจัยลบอยู่ด้วยก็ได้ เช่น หุ้นที่เคยตกต่ำมานาน, ธุรกิจอยู่ในกลุ่มตะวันตกดิน, เป็นธุรกิจวัฏจักร หรือเป็นหุ้นที่วิเคราะห์คาดว่ากำลังจะมีปัญหา จากรายได้และกำไรที่ไม่เติบโตก็ได้
สรุปแล้วค่า PE ของหุ้นช่วยเราสแกนความถูก-ความแพงของหุ้นแต่ละตัวได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ควรเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรมนั้นๆ ด้วย
อีกทั้งจุดสำคัญที่อยากฝากไว้ คือ “ราคา” ต้องควบคู่กับ “คุณภาพ” ของกิจการด้วย เพราะแม้หุ้นราคาแพง P/E สูง แต่หากเป็นหุ้นคุณภาพ แบบนี้ก็คุ้มที่จะลงทุนเช่นกัน คำว่าคุณภาพ ครอบคลุมถึงความสามารถในการทำกำไร และความได้เปรียบที่ยั่งยืนของบริษัทเมื่อเทียบกับคู่แข่งในธุรกิจนั่นเอง
