นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ประธานรับรถไฟฟ้าชุดแรก โครงการระบบขนส่งมวลชนทางรางในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ- รังสิต และช่วงบางซื่อ -ตลิ่งชัน โดยมีนายชิโร ซะโดะชิมะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย และนางคัทซึระ มิยาซากิ ผู้อำนวยการองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย พร้อมคณะผู้บริหารกิจการค้าร่วมเอ็มเอชเอสซี (MHSC) ผู้บริหารกระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เข้าร่วมงาน
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่าการลงทุนพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ และการพัฒนาระบบขนส่งทางรางให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ก่อให้เกิดการพัฒนาระบบรางที่มีศักยภาพ การรับขบวนรถรถไฟฟ้าชุดแรก ของโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ -รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ถือเป็นการต่อยอดการพัฒนาระบบรางของประเทศ ที่ต้องเปลี่ยนไปตามยุคสมัย
การมุ่งจัดหาขนส่งระบบราง มาใช้เพื่อการแก้ไขปัญหาจราจรภายในเมืองอย่างกรุงเทพฯ และปริมณฑล หรือการขนส่งผู้โดยสารและสินค้าระหว่างเมืองไปสู่การใช้ระบบรางให้เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องมือที่เราสามารถใช้เป็นกลไกในการพัฒนาประเทศ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ตลอดจนการพัฒนาบุคลากร เพื่อสนองนโยบายการเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และลดต้นทุนค่าขนส่งและโลจิสติกส์
สำหรับโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ – รังสิต และสถานีกลางบางซื่อ ความก้าวหน้าของงานก่อสร้างทั้งหมด ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2562 ได้แก่ สัญญาที่ 1 งานโยธาสำหรับสถานีกลางบางซื่อและศูนย์ซ่อมบำรุง มีความก้าวหน้า 91.11%
สัญญาที่ 2 งานโยธาสำหรับทางรถไฟ ช่วงบางซื่อ-รังสิต ดำเนินการเสร็จแล้ว
สัญญาที่ 3 งานระบบรถไฟฟ้าและเครื่องกล รวมจัดหาตู้รถไฟฟ้า สำหรับช่วงบางซื่อ-รังสิต และบางซื่อ-ตลิ่งชัน มีความก้าวหน้า 62.40%
โดยขบวนรถไฟที่นำเข้ามาอยู่ในสัญญาที่ 3 เป็นของกลุ่มกิจการร่วมค้า MHSC ร่วมกับ ซูมิโตโม คอร์ปอเรชั่น บริษัท มิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรี่ส์ จำกัด และ บริษัท ฮิตาชิ จำกัด ประกอบด้วย ขบวนรถไฟ 2 รูปแบบ คือ รถไฟฟ้าชนิด 6 ตู้ต่อขบวน รองรับผู้โดยสาร ได้สูงสุด 1,710 คนต่อเที่ยว และรถไฟฟ้าชนิด 4 ตู้ต่อขบวน รองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 1,120 คนต่อเที่ยว มีความเร็วสูงสุดในการออกแบบที่ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วัสดุขบวนรถเป็น Aluminum Double Skin ด้านการออกแบบรถไฟฟ้าสำหรับโครงการรถไฟสายสีแดงนั้นมีการคำนึงถึงสภาพอากาศของประเทศไทย
ภายในขบวนรถจึงมีเครื่องปรับอากาศตู้ละ 2 เครื่อง ใช้กระจกสีสำหรับทำหน้าต่างรถไฟ เพื่อลดปริมาณแสงแดดที่จะส่องผ่านเข้ามาภายในตู้รถ ใช้กระจกสีสำหรับทำหน้าต่างรถไฟ เพื่อลดปริมาณแสงแดดที่จะส่องผ่านเข้ามาภายในตู้รถ ออกแบบให้ตู้รถแต่ละข้างมี 3 ประตู และเพิ่มจำนวนที่นั่งเพื่อให้ผู้โดยสารนั่งได้สบายขึ้น รวมทั้งมีหน้าต่างขนาดใหญ่ให้ผู้โดยสารมองเห็นทัศนียภาพภายนอกจากมุมสูงได้มากขึ้น
นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการ รฟท. กล่าวว่ารฟท.ได้รับมอบรถไฟฟ้า 10 ตู้ ซึ่งเป็นขบวนรถโดยสารชุดแรกจากทั้งหมด 25 ขบวน ในส่วนของขบวนรถไฟฟ้าที่เหลือจะทยอยเดินทางมาจนครบทั้งหมดภายในกลางปี 2563 หลังจากนั้นจะทดสอบขบวนรถให้เสร็จ เพื่อให้พร้อมที่จะดำเนินการทดสอบ System Integration Testing และทดสอบการวิ่งให้บริการเสมือนจริง (Trial Running) ให้เสร็จสมบูรณ์ ก่อนที่จะเปิดเดินรถเชิงพาณิชย์ภายในต้นปี 2564
