ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีจากฟินแลนด์ “โนเกีย” ตั้งเป้าเจาะท่าเรือต่างๆ ในมาเลเซีย ในความพยายามที่จะชิงส่วนแบ่งตลาดเทคโนโลยี 5จี ของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ ในช่วงเวลาที่มาเลเซียกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดบริการอินเทอร์เน็ตมือถือที่มีความเร็วอย่างมากในปีหน้า
ศิวา ชานมูกัม ผู้บริหารโนเกียในมาเลเซีย เปิดเผยว่า เมื่อปีที่แล้ว บริษัทได้ร่วมกับท่าเรือฮัมบูร์กในเยอรมนี เพื่อทดสอบเทคโนโลยี ด้านการบริหารจัดการไฟจราจร การประมวลผลจากเซ็นเซอร์บนมือถือ และเทคโนโลยีเสมือนจริง (วีอาร์) โดยโนเกียต้องการที่จะนำประสบการณ์เหล่านั้นเข้ามาใช้ในมาเลเซีย
การผลักดันครั้งล่าสุดของโนเกียเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่บริษัทคาดว่า จะเผชิญกับการแข่งขันอย่างรุนแรงจาก “หัวเว่ย” ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของจีน ผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมรายใหญ่สุดของโลก ที่ทำข้อตกลง 5จี กับบริษัทโทรคมนาคมหลายรายในมาเลเซียไปแล้ว
“โนเกียกำลังประเมินถึงการให้บริการ 5จีแบบครบวงจรในมาเลเซีย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการนำการเรียนรู้ของเราในด้านแอปพลิเคชันอุตสาหกรรม เข้ามาประยุกต์ใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการดำเนินงานด้านท่าเรือ” นายชานมูกัม กล่าว
ทั้งนี้ มาเลเซียถือเป็นศูนย์กลางขนส่งสินค้าทางเรือที่สำคัญ เนื่องจากมีเส้นทางเดินเรือที่คับคั่งสุดในเอเชีย 2 สายพาดผ่าน คือ ช่องแคบมะละกา และทะเลจีนใต้ ซึ่งในประเทศนั้นมีท่าเรือใหญ่ของรัฐอยู่ 7 แห่งด้วยกัน รวมถึง ท่าเรือกลัง ที่เมื่อปีที่แล้วติดอันดับ 12 ของท่าเรือที่คับคั่งสุดของโลก
นายชานมูกัมบอกด้วยว่า โนเกียกำลังทำงานรวมกับบริษัทโทรคมนาคม 3 รายในมาเลเซีย รวมถึง ยู โมบายล์ ในเรื่องการทดลองให้บริการ 5จี
ก่อนหน้านี้ หัวเว่ยได้ลงนามในข้อตกลงกับแม็กซิส โอเปอเรเตอร์เครือข่ายมือถือรายใหญ่สุดอันดับ 2 ของมาเลเซียในแง่จำนวนผู้ใช้งาน เพื่อเปิดให้บริการ 5จีไปแล้ว และยังอยู่ระหว่างการพูดคุยเบื้องต้นในข้อตกลง 5จีกับอาเซียต้า กรุ๊ป เซลคอน
เมื่อถูกถามว่า โนเกียจะรับมือกับหัวเว่ยอย่างไร ในเรื่องความสามารถทางการแข่งขันด้านต้นทุน นายชานมูกัม ได้อ้างถึงข้อตกลง 5จี เชิงพาณิชย์ที่บริษัททำไปแล้ว 48 ฉบับทั่วโลก รวมถึงการให้บริการแบบครบวงจรที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
