ในที่สุดภารกิจนำน้องๆ ทีมหมูป่ากลับบ้านก็ประสบความสำเร็จ 18 วันนับตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน ถึง 10 กรกฎาคม 2561 ปฏิบัติการกู้ภัยทีมฟุตบอลเยาวชน หมูป่า อะคาเดมี่ติดถ้ำหลวง ที่คนทั่วโลกให้ความสนใจก็ประสบความสำเร็จ สามารถพาสมาชิกหมูป่า และผู้ช่วยโค้ชเอก ออกจากถ้ำได้อย่างปลอดภัย
ท่ามกลางความยินดี ความเหนื่อยยาก อุปสรรคปัญหาจากสภาพแวดล้อม และธรรมชาติ ที่ผู้ปฏิบัติการกู้ภัยต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นน้ำหลาก ฝนตก ดินโคลนไหลบ่า ความแคบลึกของโถงถ้ำ ความยากลำบากในการดำน้ำผ่านอุปสรรคต่างๆ ในที่สุดก็ผ่านพ้นมาได้
แม้จะใช้ทีมงาน ทหาร ตำรวจ หน่วยรบพิเศษต่างๆ มากมาย ใช้กำลังพลนับพันนาย แต่การช่วยชีวิตน้องๆ ทั้ง 13 คนมาได้ก็ถือว่าคุ้ม และที่คุ้มค่ากว่าก็คือ….บทเรียนแห่งการร่วมมือร่วมใจ ร่วมแรง และการบริหารงาน การทำงานเป็นทีม ต้องยกให้เป็นความดีของทุกคน ไม่เพียงผู้นำหรือผู้ปฏิบัติงานที่เข้าถึงตัวน้องๆ โดยตรงเท่านั้น
ความสำเร็จในภารกิจกู้ภัยผ่านพ้นไป อย่าลืมอีกสิ่งที่ต้องดูแล คือ “ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน” วนอุทยานแห่งชาติ มรดกทางธรรมชาติที่เราต้องดูแล เหตุการณ์ใหญ่ที่เกิดขึ้นในถ้ำหลวงแห่งนี้ สามารถเป็นสารคดี เนื้อหาที่น่าจดจำ และจารึกไว้ให้คนรุ่นหลังได้รับรู้ และให้นักท่องเที่ยวได้ตระหนัก
หวังว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะเห็นความสำคัญและมีการบันทึกประวัติศาสตร์ปฏิบัติการกู้ชีพ ให้เป็นอีกหนึ่ง Story ของแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติแห่งนี้ หวังว่าการจัดการดูแล เรื่องความปลอดภัยในการเที่ยวถ้ำแห่งนี้จะดีขึ้น รัดกุมมากขึ้น มีการเตือนภัยระวัง น้ำหลากเข้าถ้ำ ให้นักท่องเที่ยวได้ตระหนัก เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
และเรื่องราวที่ตื่นเต้น ของการกู้ภัยครั้งนี้ ก็ควรได้รับการบันทึกเป็น Story ที่นำมาบอกต่อ อาจทำเป็นพิพิธภัณฑ์เล็กๆ รวบรวมภาพ บรรยากาศ ความช่วยเหลือ และอุปกรณ์เครื่องใช้บางส่วน ที่เป็นร่องรอยการกู้ภัย ไว้เตือนใจแก่ผู้มาเยือน ไว้ ณ ถ้ำหลวงแห่งนี้ ซึ่งเชื่อเหลือเกินว่า หลังเหตุการณ์นี้แล้ว วนอุทยานฯถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย จะเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ที่ทั้งคนไทยและคนทั่วโลก ให้ความสนใจ
นักท่องเที่ยวจากทุกสารทิศ จะหลั่งไหลมาเที่ยวชม หวังว่าทางการของไทยจะเตรียมการรองรับด้วยดี อาจมีการปรับปรุงสภาพถ้ำให้สะอาด สะดวก และปลอดภัยมากขึ้น กำหนดพื้นที่เข้าเที่ยวชมได้ลึกระดับไหนที่ปลอดภัย ระดับไหนห้ามรุกล้ำ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็น
นอกจากนี้ก็อยากเห็น การนำเอาเรื่องราว การกู้ภัยครั้งนี้ มาถ่ายทอดผ่านการจัดพิพิธภัณฑ์เล็กๆ ให้นักท่องเที่ยวได้รำลึก บันทึกประวัติศาสตร์ ครั้งหนึ่งถ้ำหลวงแห่งนี้ คือแหล่งรวมพลังกายพลังใจจากคนทั่วโลก ที่ทุ่มเทให้กับภารกิจกู้ภัย กู้ชีพน้องๆ ทีมฟุตบอลหมูป่า ที่เคยประสบเหตุติดอยู่ในถ้ำนี้ถึง 18 วัน เป็น 18 วันแห่งความหวัง ที่ทั้งคนไทยและคนทั่วโลก ให้ความสนใจ
นอกจากนี้หลายคนยังยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ โดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ เป็นประวัติศาสตร์แห่งการร่วมแรงร่วมใจ ระดับโลกจริงๆ อยากเห็นบันทึกประวัติศาสตร์นี้ จารึกไว้ ณ วนอุทยานถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนแห่งนี้ เป็นอนุสรณ์สถานแห่งความร่วมแรงร่วมใจ ของคนไทยและชาวต่างชาติ หลายประเทศที่เดินทางมาให้ความช่วยเหลือ ทำให้ปฏิบัติการกู้ภัย ลุล่วงไปด้วยดี สร้างรอยยิ้มให้คนทั้งโลก
และอย่าลืมไว้อาลัยแก่วีรบุรุษผู้สละชีวิตในเหตุการณ์นี้ อย่างจ่าแซม- จ.อ.สมาน กุนัน อดีตนาวีซีล อาสาสมัครผู้ประสบเหตุเสียชีวิต ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ในถ้ำหลวงแห่งนี้ ให้คนรุ่นหลังได้จดจำด้วย อยากเห็นประวัติ ศาสตร์ที่สมบูรณ์รอบด้าน จารึกไว้ ณ ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน มรดกทางธรรมชาติสมบัติของแผ่นดิน และแหล่งรวมน้ำใจจากคนทั่วโลก บันทึกไว้ในความทรงจำของทุกคนที่มาเยือน ถ้ำหลวงแห่งนี้ในอนาคต
