“สนธิรัตน์” เร่งกระจายโครงการพลังงานลงพื้นที่ ปรับจูนพพ.ทำงานเชื่อมโยงเศรษฐกิจฐานราก ประสานแบงก์-กองทุนหมู่บ้านเป็นกลไกสนับสนุน พร้อมประกาศหลักเกณฑ์โรงไฟฟ้าชุมชนกลางเดือนพฤศจิกายนนี้
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวภายหลังมอบนโยบายให้กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ว่า จะมีการประกาศหลักเกณฑ์โรงไฟฟ้าชุมชนภายในกลางเดือนพฤศจิกายนนี้แน่นอน
สำหรับโรงไฟฟ้าชุมชนที่จะมีพพ.เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินงานนั้น นายสนธิรัตน์ ระบุว่า ได้มาเน้นย้ำให้การทำงานของพพ.เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจฐานราก และเชื่อมโยงกับสถาบันการเงินต่างๆให้เข้ามาร่วมสนับสนุน เช่น ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร์ (ธ.ก.ส.) กองทุนหมู่บ้าน สภาเกษตรกร เป้าหมายใหญ่ต้องทำให้เศรษฐกิจฐานรากเข้มแข็ง และลุกมายืนได้
ขณะเดียวกันให้เปลี่ยนมิติมุมมองใหม่ ให้เป็นพลังงานทดแทนที่ชุมชนสร้างเองได้ เพื่อเสริมความเข้มแข็งให้ชุมชน ช่วยให้ชุมชนประหยัด มีรายได้เพิ่มขึ้น และลดปัญหาหนี้สิน
สำหรับแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานนั้น อยู่ระหว่างปรับตัวเลขให้เหมาะสมว่าจะส่งเสริมพลังงานทดแทนแต่ละประเภทในสัดส่วนเท่าใด รวมถึงผลิตไฟฟ้าจากขยะ 400 เมกะวัตต์ ซึ่งยืนยันว่าองค์กรหลักที่จะต้องเป็นผู้ขับเคลื่อนพลังงานประเภทนี้ คือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)
นายสนธิรัตน์ ยังได้กล่าวถึงการเลื่อนโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ให้เข้าระบบเร็วขึ้น จากเดิมเข้าระบบปี 2570 และ 2572 ปีละ 700 เมกะวัตต์ ว่าเพราะต้องการให้เกิดความมั่นคงของไฟฟ้าในภาคใต้ เพราะแผนการพัฒนาโรงไฟฟ้าในภาคใต้แห่งใหม่สะดุดมานาน อย่างไรก็ตามได้มอบการบ้านให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาในรายละเอียด โดยเฉพาะแผนการจัดหาก๊าซธรรมชาติที่จะนำมาเป็นเชื้อเพลิง
