ปราสาทชูริ ที่ตั้งตระหง่านคู่กับญี่ปุ่นมานานหลายร้อยปี หลงเหลือเพียงแค่เศษเถ้าถ่านในวันนี้ (31 ต.ค.) หลังเกิดไฟไหม้เผาผลาญปราสาทที่ยูเนสโกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกไปเกือบทั้งหมด
The Bangkok Insight มี 5 เรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับปราสาทแห่งนี้ ที่เป็นแลนด์มาร์คสำคัญ ของจังหวัดโอกินาวา มาเล่าให้ฟัง
ที่นั่งแห่งอำนาจ
ปราสาทชูริสร้างมาในสมัยศตวรรษที่ 1 ที่เมืองนาฮะ เมืองเอกของจังหวัดโอกินาวา ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ตั้งของราชวงศ์ริวกิว โดบปราสาทแห่งนี้เคยทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการบริหารบ้านเมือง และเป็นที่พำนักของกษัตริย์แห่งราชวงศ์ริวกิวมานานหลายศตวรรษ จนถึงปี 2422 ที่โอกินาวากลายมาเป็นจังหวัดหนึ่งของญี่ปุ่น
ด้วยรูปแบบตัวอาคารสีแดงสด หลังคาปูกระเบื้องที่ลาดเอียงลงมา และการตกแต่งที่ได้รับอิทธิพลมาจากจีน ทำให้สถาปัตยกรรมของปราสาทนี้แตกต่างจากปราสาทต่างๆ ที่อยู่บนเกาะหลักของญี่ปุ่น ซึ่งในปี 2476 รัฐบาลญี่ปุ่นได้ขึ้นทะเบียนให้ปราสาทชูริ เป็นสมบัติของชาติ
โครงสร้างอาคาร
หมู่ปราสาทชูริ ประกอบไปด้วยท้องพระโรงหลักตั้งอยู่ตรงกลาง โดยมีท้องพระโรงเหนือ และท้องพระโรงใต้ ประกบอยู่ และยังมีประตูชูเร เป็นประตูทางเข้าหลักของปราสาท
ท้องพระโรงหลักของปราสาทชูริ โดนไฟไหม้ในวันนี้ (31 ต.ค.) เผาผลาญเสียหายทั้งหมด ซึ่งตามปกติแล้ว ภายในท้องพระโรงหลักแห่งนี้ จะมีบัลลังก์ และมงกุฎจำลองจากของจริงที่กษัตริย์ราชวงศ์ริวกิวเคยใช้กันมา รวมถึง ข้าวของเครื่องใช้ในประวัติศาสตร์ และข้อมูลต่างๆ สำหรับนักท่องเที่ยว
ไฟไหม้หลายครั้ง
ช่วงเวลาหลายร้อยปีที่ผ่านมา ปราสาทชูริเคยได้รับความเสียหาย และโดนไฟไหม้หลายครั้ง ทั้งจากการสู้รบแย่งชิงบัลลังก์ในอดีต ซึ่งตัวปราสาท และสิ่งก่อสร้างอื่นๆ
หมู่ปราสาทในยุคปัจจุบันนี้ ได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ เมื่อปี 2535 ส่วนการขึ้นทะเบียนมรดกโลกของยูเนสโกนั้น ครอบคลุมเฉพาะซากปรักหักพังที่หลงเหลือมาจากสมัยโบราณ ไม่รวมส่วนที่ฟื้นฟูขึ้นมาใหม่
ฐานบัญชาการสงครามโลกครั้งที่ 2
ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพญี่ปุ่นได้สร้างฐานบัญชาการขึ้นที่ใต้ดินของปราสาท และเริ่มใช้งานในวันที่ 25 พฤษภาคม 2488 ซึ่งเรือรบมิสซูรีของสหรัฐ ร่วมกับเรือรบลำอื่นๆ ระดมยิงปราสาทและฐานทัพเป็นเวลา 3 วัน จนปราสาทถูกเผาทำลายในวันที่ 27 พฤษภาคม
แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม
ปราสาทชูริขึ้นชื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม มีนักเดินทางทั้งชาวญี่ปุ่น และต่างชาติหลั่งไหลมาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก ทั้งยังถูกกำหนดให้เป็นหนึ่งในจุดส่งมอบคบเพลิงสำหรับกีฬาโอลิมปิค ฤดูร้อน ที่กรุงโตเกียวจะเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นในปี 2563
ภายนอกตัวปราสาท ยังมีอุทยานหลวงชิกินะ ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงสถานที่พักผ่อนของเหล่าเชื้อพระวงศ์เท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ต้อนรับทูตานุทูตจากจีนอีกด้วย อุทยานแห่งนี้เป็นแบบอย่างของการจัดสวนแบบริวกิวที่หาได้ยาก และมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ จึงได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกพร้อมกับปราสาทชูริ
