“จุรินทร์” ออกโรงชี้แจง ตัวเลขสิทธิพิเศษทางภาษีที่ถูกตัดประมาณ 1,500-1,800 ล้านบาท ยืนยันไม่เกี่ยวกรณีไทยแบน 3 สารเคมี แต่เป็นประเด็นแรงงาน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรณีที่สหรัฐตัดสิทธิทางภาษีหรือ GSP สินค้าไทยที่ส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกานั้น ประเด็นคือปัจจุบันสหรัฐฯให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรหรือที่เรียกว่าจีเอสพี ที่ส่งออกสินค้าไทยไปยังสหรัฐฯ รวมทั้งหมดราคา 1,800 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ไทยใช้สิทธิ์เพียง 1,300 ล้านเหรียญสหรัฐสำหรับสินค้าส่งออก
ดังนั้น เมื่อสหรัฐระงับการให้สิทธิจีเอสพีไทย จึงส่งผลให้สินค้าของไทยที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ จำนวนยอดขายรวมกัน 1,300 ล้านเหรียญสหรัฐ จะต้องเสียภาษีนำเข้าสหรัฐจากเดิมที่ไม่ต้องเสียภาษี โดยภาษีที่ต้องเสียอยู่ที่ 4-5% ซึ่งเมื่อคำนวณแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 1,500 ถึง 1,800 ล้านบาทต่อปี
อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่สหรัฐ อ้างว่าใช้เป็นเงื่อนไขในการตัดสิทธิ์ ทำให้ไทยต้องเสียภาษีคือเรื่องแรงงาน โดยสหรัฐต้องการให้ไทยเปิดโอกาสให้แรงงานต่างด้าวที่มาทำงานอยู่ในประเทศไทยสามารถตั้งสหพันธ์แรงงานได้ ซึ่งเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญ
ขณะเดียวกัน ประเทศไทยสามารถที่จะอุทธรณ์หรือขอให้ทบทวนใหม่ได้ ซึ่งหลายครั้งที่ผ่านมา เช่น ปีที่แล้วก็ทบทวนรายการสินค้าคืนมาให้ 7 รายการ และปีนี้จะยื่นขอทบทวนอีก ซึ่งขึ้นอยู่กับทางสหรัฐว่าทบทวนหรือไม่
“การแบน 3 สาร ไม่ได้เป็นเงื่อนไขของครั้งนี้ สิ่งที่ชทราบเป็นทางการ คือ เกี่ยวกับประเด็นแรงงาน สรุปว่าสิ่งที่เขาอ้างในการตัดสิทธิ์ไม่เกี่ยวกับ 3 สาร” นายจุรินทร์ กล่าว