กำลังเป็นประเด็นดราม่าร้อน ๆ ที่โลกออนไลน์กำลังให้ความสนใจ หลังเพจดังอย่าง เจ๊มอย 108 ได้เผยข้อความที่มีสาวปริศนาที่อ้างตัวว่าเป็นป้าของนักร้องลูกทุ่งสาววัย 24 ปี เจนนี่ – รัชนก สุวรรณเกตุ หรือ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น คนแต่งเพลงดังอย่าง เลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว ที่มียอดวิวในยูทูบทะลุ 200 ล้านวิว ออกมาโพสต์ข้อความแฉผ่านทางเฟซบุ๊กถึงปมการทอดทิ้งพ่อ ไม่ยอมส่งเงินให้ในยามที่เจ็บป่วยและลำบาก โดยระบุว่า…
“นี่แหละพ่อ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ตัวจริงถึงจะเลิกกับแม่เขา แต่เค้าก็ไม่เคยทอดทิ้งลูก ขอเงินมาก็ส่งให้ตลอด แต่ตอนนี้ลูกดังแล้ว กลับมองไม่เห็นหัวพ่อเลย ทุกวันนี้ยังแต่งเพลงให้ลูกตลอด ไม่ว่าลูกจะโทรมาเวลาไหน แต่พอทักไปขอค่าแต่เพลง ลูกกลับว่ามาสารพัดเหมือนไม่ใช่พ่อ พ่ออยู่เบื้องหลังตลอดเพลง #เลิกคุยทั้งอำเภอก็ช่วยแต่ง แต่ลูกน่าจะมองเห็นหัวพ่อมั่ง และก็หลายๆ เพลง พ่อช่วยแต่งตลอด พอจะเอาเพลงก็โทรหาพ่อได้ตลอด ตอนนี้พ่อเค้ามีความเป็นอยู่ลำบาก ทำงานก็ไม่ค่อยได้ ป่วยมานานหลายปี เข้าออกโรงพยาบาลนอนทีเป็นเดือน ลูกสาวก็ไม่เคยคิดจะมาเยี่ยมเลยสักครั้ง ไม่เคยสงสารพ่อ พ่อโทรไปขอค่าแต่งเพลงที่แต่งให้ลูก กลับมองว่าพ่อเหมือนขอทาน ลูกเนรคุณแบบนี้ ช่วยๆ แชร์ให้คนรับรู้ความจริง เด็กคนนี้ดังได้เพราะพ่อเค้าอยู่เบื้องหลัง แต่เขามองไม่เห็นหัวพ่อเขาเลย”
นอกจากนี้ หลานของพ่อเจนนี่ ก็ได้มีการออกมาโพสต์ข้อความโจมตีนักร้องลูกทุ่งสาวด้วยเช่นกัน โดยระบุว่า “น่าสงสารพ่อเขานะ … ซึ่งเป็นน้าบาวของเราเอง ทำงานแต่งเพลงให้ลูกเพื่อแลกกับเศษเงินของลูก แต่พอได้เพลงไปแล้วกลับเฉย เงินค่าเพลงก็ไม่โอนให้พอทักก็ว่าสารพัด น่าเห็นดูจริง อยากให้น้องเค้าได้อ่าน พ่อไม่เคยไปเรียกร้องอะไรจากลูก ทำงานแลกเงินอย่างเดียว เรื่องนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว แต่ใครไม่อยากจะพูด ตอนนี้คงถึงเวลาแล้วที่ทุกคนจะได้รู้เบื้องหลังที่แท้จริงของเขา”
ขณะเดียวกัน ญาติอีกคนของพ่อเจนนี่ ก็ได้โพสต์ข้อความโจมตีในทำนองเดียวกัน โดยระบุว่า “คนบางคนพอดังแล้วมองไม่เห็นหัวคนที่เกิดมา ถ้าเป็นเราพ่อแม่ไม่ต้องลำบากแบบนี้อยู่หรอก ลืมอะไรก็ลืมได้ แต่อย่าลืมคนที่ทำให้เราเกิดมา ความจริงที่คงไม่มีใครรู้” จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกโซเชียล
ซึ่งต่อมา ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Kanpirom Aedzang ผู้มีศักดิ์เป็น น้าสาวของเจนนี่ และอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เกิด ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหว โดยการโพสต์ข้อความชี้แจงอีกมุมว่า “ในฐานะที่เราอยู่กับเจนนี่มาตั้งแต่เกิด เราขออธิบายนะคะ ใช่ค่ะคนในข่าว คือพ่อแท้ๆ เจนนี่ เราขอเรียกว่าพี่นัน พี่นันได้เลิกรากับพี่สาวเราไปนานแล้ว ตอนเจนนี่ลำบาก ใช่ค่ะ โทร.ขอความช่วยเหลือบ้าง แต่ก็อ้างสารพัดกว่าจะได้รับความช่วยเหลือ จนติดต่อมาอีกครั้งตอนเจนนี่มีชื่อเสียง บอกพ่อรักลูก คิดถึงลูก โอเคถือว่าเข้าใจ
พี่นันมีครอบครัวใหม่ เมียใหม่ ลูกใหม่ แล้วพี่นันมาเรียกร้องอะไรตอนเจนนี่ดัง ใช่ นี่คือพ่อ เจนนี่ก็ไม่เคยลืมพ่อ ตอนพี่นันบวช เจนนี่เป็นคนจัดงานให้ เจนนี่ส่งงานแต่งเพลงให้พี่นัน เพื่อให้พี่นันมีรายได้ ส่งเงินให้เพราะพี่นันบอกไม่มีค่ารักษาพยาบาล ไม่มีค่าเทอมน้องๆ (ลูกของเมียใหม่) บางครั้งพี่นันก็เรียกร้องมากเกินไปนะคะ เจนให้มาตลอด ตอนให้ ทำไมไม่บอกเขาบ้างล่ะคะ เจนนี่ให้มาตลอดพอไม่ได้หาว่าลูกเป็นนี้เป็นแบบนั้น
อ่อ แล้วอย่าใช้คำว่าพ่อแต่งเพลงให้ เจนนี่แต่งเองแล้วส่งให้พ่อฟัง พ่อแค่ช่วยให้คำแนะนำ แค่บางเพลงเท่านั้น สาเหตุที่ออกมาแฉแบบนี้คือได้เงินค่าแต่งเพลงช้า ช่วยได้เท่าที่ช่วย ไม่เคยเห็นใครเป็นขอทาน สู้ต่อไป กำลังใจทั้งเพ ทีมเจนนี่”
ขณะที่ เจตริน ศรีสังข์ แฟนหนุ่มของเจนนี่ ก็ได้มีการคอมเมนท์ตอบกลับเพจที่ออกมาแฉเรื่องราวดังกล่าว ระบุว่า “ขอตังค์มา 10 ครั้ง ได้ทุกครั้ง พอไม่ได้ครั้งเดียว มีปัญหา เพราะที่เจนให้พ่อช่วยเรื่องงาน แค่อยากให้พ่อมีรายได้ แต่ล่าสุดได้ค่างานไป 3 วัน โทร.ขอล่วงหน้าอีก ทั้งๆ ที่เพิ่งให้ไป แต่พอไม่ได้ตังค์ก็มีปัญหาเลยโทร.หาลูกทั้งวัน เพื่อโทร.จิกจะเอาตังค์ พอไม่ได้ก็เป็นงี้แหละ แต่ก่อนไม่เคยสนใจเจนนี่เลย ผมไม่อยากจะพูดไรเยอะ รอเจนนี่ดีกว่า”
ความคืบหน้าล่าสุดนักร้องลูกทุ่งสาว เจนนี่ รัชนก ก็ได้ตัดสินใจโพสต์ข้อความเปิดใจถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมงัดแชทที่เคยคุยกับพ่อและยืนยันไม่เคยคิดทอดทิ้งแน่นอน “หนูคิดว่า คนที่รู้เรื่องนี้ดีที่สุดคือ พ่อและหนู #ไม่ใช่ป้าคนนั้น ให้มากให้น้อยแล้วแต่เหมาะสม ป้าทราบแค่ตอนที่ไม่ให้ แล้วตอนที่หนูให้ทำไมป้าไม่โพสต์ชมหนูบ้าง หนูไม่ได้เรียกร้องอะไร แต่วันนี้ที่หนูต้องพูด เพราะหนูต้องปกป้องตัวเอง
#หนูไม่เคยโกรธพ่อที่ทิ้งไป ทุกคนล้วนมีเหตุผลของตัวเอง ไม่หวังให้พ่อมาเลี้ยง เพราะทราบดีว่าพ่อมีครอบครัวใหม่ ทุกครอบครัวต้องมีปัญหาทางการเงิน
#แต่หนูโกรธป้าที่มาทำลายหนู ป้ารู้บ้างรึเปล่าว่ากว่าจะมีวันนี้ หนูเหนื่อยขนาดไหน ถ้าก่อนหน้านี้ป้าสนใจหนูสักนิด ป้าคงจะได้รู้ ว่าหนู แม่ และน้อง ต้องประสบพบเจออะไรมาบ้าง ในวันที่เราลำบาก ตกต่ำ ไม่มีตังกินข้าว ดรอปเรียนเพราะไม่มีค่าเทอม พวกเราไม่เคยเรียกร้องอะไร แล้วทำไม ป้าต้องมาทำกับหนูแบบนี้”
