ศาสตราจารย์กิตติคุณ นพ.ชัยเวช นุชประยูร ผู้ช่วยเลขาธิการสภากาชาดไทย และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความต้องการเลือดตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมจน2562 เป็นต้นมา พบว่าปริมาณเลือดสำรองในคลังของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง เนื่องจากมีผู้บริจาคโลหิตลดน้อยลง จากปกติต้องได้รับโลหิตบริจาค ตามเป้าหมายคือ 2,000-2,500 ยูนิตต่อวัน แต่ได้รับโลหิตบริจาคเฉลี่ย 1,500-1,700 ยูนิตต่อวันเท่านั้น จึงเกิดการขาดแคลนสะสมจนทำให้ปริมาณโลหิตคงคลังลดน้อยลงจนถึงขณะนี้
เริ่มส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยในโรงพยาบาลต่างๆ โดยเฉพาะในโรงพยาบาลใหญ่ๆ หลายแห่ง ที่ต้องทำการรักษาด้วยการผ่าตัดให้ผู้ป่วย รวมทั้ง ผู้ป่วยเด็กโรคเลือด อาทิ โรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย ฮีโมฟีเลีย ที่ต้องใช้เลือดในปริมาณมากและต่อเนื่องตลอดชีวิต โดยโรงพยาบาลทั่วประเทศ กว่า 160 แห่ง ขอเบิกเลือดมายังศูนย์บริการโลหิตฯ เฉลี่ยเบิกรวม 2,600-3,000 ยูนิตต่อวัน แต่ศูนย์บริการโลหิตฯ จ่ายให้ได้เฉลี่ย 1,600-2,000 ยูนิตต่อวัน หรือประมาณ 60% ทำให้โรงพยาบาลต้องเลื่อนการผ่าตัดผู้ป่วยบางรายออกไปก่อน
ศาสตราจารย์ กิตติคุณ นพ.ชัยเวช กล่าวว่าศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ จึงขอเชิญชวนผู้บริจาคโลหิตและประชาชนทั่วไป ร่วมบริจาคโลหิตเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยในโรงพยาบาลทั่วประเทศให้ได้รับการรักษาทันท่วงที โดยสามารถติดต่อบริจาคโลหิตได้ที่ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติสภากาชาดไทย ศูนย์รับบริจาคโลหิต และพลาสมา สถานีกาชาดที่ 11 วิเศษนิยม บางแค
หรือบริจาคได้ที่ สาขาบริการโลหิต 6 แห่งในกรุงเทพฯได้แก่ โรงพยาบาลตำรวจ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช สถาบันพยาธิวิทยา ศูนย์อำนวยการแพทย์พระมงกุฎเกล้า และโรงพยาบาลวชิรพยาบาล คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช
ในส่วนภูมิภาค บริจาคโลหิตได้ที่ ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ และงานบริการโลหิต รวม 13 แห่ง ได้แก่ ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ จังหวัดลพบุรี ชลบุรี ราชบุรี นครราชสีมา ขอนแก่น อุบลราชธานี นครสวรรค์ พิษณุโลก เชียงใหม่ นครศรีธรรมราช (ทุ่งสง) สงขลา ภูเก็ต และงานบริการโลหิต สถานีกาชาดหัวหินเฉลิมพระเกียรติ จ.ประจวบคีรีขันธ์ และสาขาบริการโลหิตโรงพยาบาลประจำจังหวัดทั่วประเทศ สอบถามรายละเอียดได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์และจัดหาผู้บริจาคโลหิต 0 2256 4300,0 2263 9600-99 ต่อ 1101,1760,1761