General

‘กทม.-ปริมณฑล’ ฝุ่น 2.5 เพิ่มทุกพื้นที่ 15 สถานีเกินเกณฑ์เริ่มกระทบสุขภาพ

วันนี้ (23 ต.ค.)กรมควบคุมมลพิษ รายงานคุณภาพอากาศในพื้นที่กทม.และปริมณฑล พบว่า ปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 ตรวจวัดได้ระหว่าง 31 -69 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เกินเกณฑ์มาตรฐาน และอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีส้ม) จำนวน 15 สถานี (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) บริเวณอ.เมือง จ.สมุทรปราการ (69 ไมโครกรัมฯ) เขตบางคอแหลม (66 ไมโครกรัมฯ)

12a

เขตภาษีเจริญ (61 ไมโครกรัมฯ) เขตบางซื่อ (60 ไมโครกรัมฯ) เขตบางพลัด (59 ไมโครกรัมฯ) เขตวังทองหลาง (58 ไมโครกรัมฯ) เขตปทุมวัน (55 ไมโครกรัมฯ) ริมถนนดินแดง (54 ไมโครกรัมฯ) เขตสาทร (54 ไมโครกรัมฯ) เขตบางขุนเทียน (54 ไมโครกรัมฯ) อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ (54 ไมโครกรัมฯ) ริมถนนกาญจนาภิเษก (53 ไมโครกรัมฯ) เขตคลองสาน (53 ไมโครกรัมฯ) เขตหลักสี่ (53 ไมโครกรัมฯ) เขตบึงกุ่ม (51 ไมโครกรัมฯ) โดยปริมาณฝุ่นละอองเพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้าเกือบทุกพื้นที่

ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาพอากาศและสถานการณ์ที่ต้องติดตามเกี่ยวกับฝุ่นละอองบริเวณ กทม.และปริมณฑล ว่าวันที่ 23 ต.ค.62 ช่วงเช้าๆ ลมอ่อน หรือสงบ อาจเกิดหมอกผสมควันในช่วงเวลาเช้าได้ การไหลเวียนของอากาศอาจไม่ดีนัก ระดับเพดานการลอยตัวของฝุ่นละอองไม่สูงนัก ทำให้เกิดการสะสมของฝุ่นได้เพิ่มขึ้น แต่คาดว่าสถานการณ์จะเริ่มดีขึ้น ตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค.เป็นต้นไป เนื่องจากจะมีความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็น แผ่ลงมาปกคลุม ทำให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลังแรงขึ้น จะทำให้การไหลเวียนของอากาศดีขึ้น

12b

กระทรวงสาธารณสุข ได้แจ้งเตือนการปฏิบัติตนเพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพจากสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 สูงเกินมาตรฐานดังกล่าว ดังนี้ พื้นที่ที่คุณภาพอากาศเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (พื้นที่สีส้ม) ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก /หญิงตั้งครรภ์ /ผู้สูงอายุ/ และผู้มีโรคประจำตัว ควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรม หรือออกกำลังกายกลางแจ้ง หากจำเป็นต้องออกนอกบ้านเป็นเวลานาน ควรสวมหน้ากากอนามัย เพื่อเป็นการป้องกันฝุ่นละออง รวมถึงป้องกันโรคติดต่อในระบบทางเดินหายใจ ซึ่งเป็นไปตามหลักการป้องกันไว้ก่อน

Avatar photo