เผยผลโพลชี้ประชาชนห่วงสุขภาพของตนเอง และคนในครอบครัว จากการใช้สารเคมีทางการเกษตรที่มีอันตรายสูง 3 ชนิด
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กรมควบคุมโรค ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับโรค และภัยสุขภาพ ดีดีซีโพล (DDC Poll) เรื่อง “สารเคมีทางการเกษตรที่มีอันตรายสูง 3 ชนิด (พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต)” จากประชาชนกลุ่มตัวอย่าง 3,500 คน ในพื้นที่ 25 จังหวัดทั่วประเทศ โดยสำรวจเมื่อวันที่ 9 – 13 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา
จากการวิเคราะห์ข้อมูลที่สำคัญพบว่า ประชาชนมีความรู้เรื่องสารเคมีใช้ทางการเกษตรที่มีอันตรายสูง 3 ชนิด อยู่ในเกณฑ์ดี กล่าวคือ
- 87.7% รู้จักและเคยได้ยินสารเคมีดังกล่าว
- 61.6 % รู้จัก และเคยได้ยินสารเคมี ดังกล่าวมาจากข่าวและสื่อมวลชน
ส่วนข้อมูลความคิดเห็นของประชาชนพบว่า
- ประชาชนส่วนใหญ่คิดว่า สารเคมีดังกล่าว ทำให้เกิดอาการผิดปกติ คือ โรคผิวหนัง แผลติดเชื้อ 51.4 % รองลงมา คือ คลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายเหลว
- ประชาชนส่วนใหญ่ยังคิดว่าคนทั่วไปได้รับสารเคมีดังกล่าว จากการสัมผัสการทำเกษตรกรรม 59.9 % รองลงมา คือการรับประทานอาหาร หรือน้ำที่ปนเปื้อน
- ประชาชนส่วนใหญ่คิดว่าจะมีส่วนร่วมในการเลิกใช้สารเคมีดังกล่าว โดยการเลิกซื้อผัก ผลไม้ หรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้สารเคมีทางการเกษตร 73.7% รองลงมา คือเลิกใช้สารเคมีทางการเกษตร และแนะนำคนอื่นให้เลิกใช้สารเคมีทางการเกษตรด้วย
- ถ้าไม่มีสารเคมีดังกล่าวใช้ในเกษตรกรรม จะเลิกใช้สารเคมีทางการเกษตร 59.2% รองลงมาคือหันไปใช้เกษตรอินทรีย์
จากผลการสำรวจดังกล่าว ทำให้เห็นว่าประชาชนเป็นห่วงสุขภาพของตนเองและคนในครอบครัว ที่สำคัญประชาชนได้ตระหนักถึงอันตราย ที่อาจเกิดขึ้นต่อสุขภาพจากการใช้สารเคมีทางการเกษตรที่มีอันตรายสูง 3 ชนิดข้างต้น
ในส่วนของกรมควบคุมโรค และหน่วยงานในสังกัดทุกแห่ง สนับสนุนให้ยกเลิกการใช้สารเคมีทางการเกษตรที่มีอันตรายสูง 3 ชนิด เพื่อลดผลกระทบที่มีต่อสุขภาพของเกษตรกร และประชาชนในประเทศ ซึ่งการใช้สารเคมีในทางเกษตรกรรม มีผลกระทบ และอันตรายต่อสุขภาพของผู้ฉีดพ่นสารเคมี และผู้ทำงานในพื้นที่เกษตรกรรม
ทั้งนี้กรมควบคุมโรค พร้อมสนับสนุนองค์ความรู้ทางหลักวิชาการ และดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการพัฒนามาตรการทางกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2562 เพื่อยกระดับการเฝ้าระวังภัยสุขภาพจากการสัมผัสสารเคมีทางการเกษตรกรรม ประชาชนสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422