กบง.ไฟเขียวกฟผ.นำเข้าแอลเอ็นจีลำแรก 65,000 ตัน ธันวาคม 62 พร้อมสั่งการพพ.-กกพ. ผุดหลักเกณฑ์โรงไฟฟ้าชุมชน เร่ง “ควิก วิน” ปลายปี
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่าในการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) วันนี้ (21 ต.ค.) ได้รับทราบแนวทางการทดลองนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) แบบสัญญาระยะสั้นตลาดจร (Spot) ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
โดยสรุปแนวทางเลือกปริมาณการนำเข้า 2 ลำเรือ ลำเรือละ 65,000 ตัน และช่วงเวลาการนำเข้าที่เหมาะสมลำแรกประมาณเดือนธันวาคม 2562 และลำที่ 2 ประมาณเดือนเมษายน 2563
ทั้งนี้จากข้อมูลราคาแอลเอ็นจี แบบสปอต ในช่วงเดือนธันวาคม 2562 จะยังไม่สูงมากนัก โดยให้ กฟผ. และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ( กกพ.) นำผลการนำเข้าแอลเอ็นจีลำแรกมารายงาน กบง.ต่อไป เพื่อจะได้ทราบผลกระทบ จากการดำเนินการ รวมถึงการเปรียบเทียบต้นทุนค่าไฟฟ้า เพื่อส่งผลกระทบต่ออัตราค่าไฟฟ้าน้อยที่สุด
นอกจากนี้ยังได้หารือรูปแบบโรงไฟฟ้าชุมชน ตามมติที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้มอบหมายตั้งแต่ 11 กันยายน 2562 เบื้องต้นกระทรวงพลังงานพิจารณาไว้ 3 รูปแบบ ได้แก่
1. เป็นการลงทุนโดยภาคเอกชน หรือบริษัทลูกของการไฟฟ้าที่มีความพร้อมอยู่แล้ว
2. เป็นการลงทุนเพื่อความมั่นคงปลายสาย หรือไฟฟ้าเข้าไม่ถึง โดยอาจจะพิจารณานำเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน กองทุนพัฒนาไฟฟ้า หรือรูปแบบโครงการเพื่อสังคม (ซีเอสอาร์) จากภาคเอกชนต่างๆ
3.เป็นการลงทุน เพื่อนำของเสียมาจัดการให้เป็นประโยชน์เชิงพลังงาน เช่น ขยะ
โดยมอบหมายให้กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) และกกพ. ทำรายละเอียดรูปแบบมาเสนอ กบง. อีกครั้ง ภายในเดือน พฤศจิกายน-ธันวาคม 2562 และจะมีการจัดตั้งคณะอนุกรรมการมาช่วยพิจารณาหลักเกณฑ์ดังกล่าวให้เหมาะสมยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ กบง. ได้พิจารณาปัญหาความเดือดร้อนของผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (เอสพีพี) ชีวมวล โดยให้ เอสพีพีชีวมวล สามารถสมัครใจเลือกอยู่ในรูปแบบสัญญาเดิมต่อไปตามเงื่อนไขเดิม หรือให้สามารถเลือกที่จะเปลี่ยนรูปแบบเป็น FiT (feed in tariff ) ได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อภาระค่าไฟฟ้าของผู้ใช้ไฟฟ้าของประเทศในภาพรวม