Sport

ดราม่าVAR! ‘คล็อปป์’ ว้ากเสียประตูให้แมนยู ‘โซลชา’ยันสมควรได้

ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เกมแดงเดือด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเกิดเหตุดราม่ากับการใช้ VAR

1571627907925
ภาพจาก : www.eurosport.com

เกมที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในเมื่อคืนที่ผ่านมามีการเรียกใช้ VAR สองครั้งซึ่ง “หงส์แดง” เป็นฝ่ายเสียผลประโยชน์ทั้งสองครั้ง จากหนแรกเสียประตูให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ขณะที่อีกครั้งปฎิเสธประตูซาดิโอ มาเน่

แต่ประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างมากคือ ประตูขึ้นนำ 1-0 ของ แรชฟอร์ด ที่ก่อนหน้านั้น ดิว็อค โอริกี้ โดน วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ เตะจากด้านหลังล้มกลิ้งก่อนเป็นฝั่งผีแดงครองบอลจนสู่ที่มาของประตู และเมื่อมีการเช็ค “วีเออาร์” แล้วมาร์ติน แอตกินสัน กรรมการในแมตช์นี้ยืนยันว่าเป็นประตู

คล็อปป์ แสดงความเห็นเกี่ยวกับจังหวะปัญหาว่า”ผมเชื่อมั่นเต็มร้อยในเรื่องวีเออาร์ แต่ตอนนี้เรามองเห็นปัญหากันแล้ว ผู้ตัดสินปล่อยเกมให้เล่นต่อเพราะเขามีวีเออาร์ แต่หลังจากนั้นวีเออาร์กลับไม่เคลียร์ เห็นได้ชัดว่ามันเป็นปัญหาของวีเออาร์”

1571627913827

“ผมไม่ได้โกรธ มันแค่แปลกใจ ผมมองเห็นว่ามันเป็นจังหวะฟาวล์ และไม่มีอะไรเกิดขึ้น มร.แอตกินสัน ปล่อยให้เกมเล่นต่อไป ผมเชื่อว่าเขาคิดว่า วีเออาร์ จะแสดงให้เห็นว่ามีจังหวะการปะทะกันจริงหรือไม่ แน่นอนว่ามันเป็นการทำฟาวล์ชัดเจน เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้ได้ แต่นี่คือปัญหา”

ด้านโอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือแมนฯ ยูไนเต็ดแสดงความเห็นว่า “ไม่เลย อยากจะบอกว่าเราไม่ได้เล่นบาสเกตบอล บางทีอาจจะมีการสัมผัสกันเบาๆ แต่มันไม่ชัดเจน”

“นี่เป็นเกมลูกผู้ชายย่อมต้องมีการเข้าปะทะกัน ส่วนกรณีประตูของ ลิเวอร์พูล มันเป็นจังหวะแฮนด์บอลของ ซาดิโอ มาเน่ สุดท้ายแล้ววีเออาร์มีการตัดสินที่ถูกต้องแล้ว”

ขณะที่ องค์กรผู้ตัดสินแมตช์เกมอาชีพ (พีจีเอ็มโอแอล) เปิดเผยว่าสาเหตุที่ วีเออาร์ ไม่ทำการตัดสินว่า วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ กองหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ควรจะเสียฟาวล์ในจังหวะดังกล่าว เพราะ มาร์ติน แอ็ตกินสัน กรรมการในสนามเห็นจังหวะดังกล่าว พร้อมกับมองว่ามันไม่ใช่จังหวะการทำฟาวล์ตั้งแต่แรก และทางทีมงาน วีเออาร์ มองว่า แอ็ตกินสัน ไม่ได้ตัดสินผิดพลาดแบบรุนแรงด้วย

Avatar photo