ตลาดหุ้นเอเชีย ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (21 ต.ค.) เต็มไปด้วยความระมัดระวังตัวในช่วงเริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ ขณะที่เงินปอนด์ อ่อนค่าหนัก หลังรัฐสภาอังกฤษต้องเลื่อนการลงมติสำคัญ ในเรื่องข้อตกลงที่จะออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู)
ดัชนีนิกเคอิ ตลาดหลักทรัพย์โตเกียวของญี่ปุ่น เคลื่อนไหวล่าสุดปรับตัวขึ้นมา 46.64 จุด หรือ 0.21% ที่ 22,539.32 จุด ดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกงลดลง 128.91 จุด หรือ 0.48% ที่ 26,719.58 จุด ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ ของจีนขยับลงมา 39.19 จุด หรือ 1.32% ที่ 2,938.14 จุด และดัชนีสเตรทไทมส์ ของสิงคโปร์บวก 3.10 จุด หรือ 0.10% ที่ 3,117.26 จุด
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (19 ต.ค.) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอังกฤษ มีมติให้เลื่อนการลงมติรับรองข้อตกลงเบร็กซิท จนกว่าจะผ่านร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดก่อน สถานการณ์ที่จะทำให้รัฐบาลอังกฤษ ต้องยื่นเรื่องต่ออียู เพื่อขอเลื่อนเวลาทำเบร็กซิทออกไป 3 เดือน จากเส้นตายในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ แต่นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ผู้นำอังกฤษ ประกาศที่จะไม่เจรจาเลื่อนเวลาดังกล่าว
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้เงินปอนด์อังกฤษ อ่อนค่าอย่างหนัก เมื่อเทียบกับดอลลาร์ และยูโร เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 1.2908 ดอลลาร์ต่อปอนด์ และ 1.16 ยูโรต่อปอนด์
ปัญหาเบร็กซิท ประกอบกับความกังวลในเรื่องเศรษฐกิจโลกชะลอการเติบโตลง และความขัดแย้งทางการค้าระหว่างประเทศต่างๆ ทำให้นักลงทุนพากันเก็บตัวอยู่ด้านนอกตลาดในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
ปัจจัยที่สร้างแรงกดดันให้กับตลาดมากขึ้น รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจจากญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ที่แสดงให้เห็นว่า ยอดส่งออกของญี่ปุ่น ในเดือนกันยายนร่วงลงเป็นเดือนที่ 10 ติดต่อกัน เช่นเดียวกับเกาหลีใต้ ที่ปริมาณการส่งออกในช่วง 20 วันแรกของเดือนตุลาคม ดิ่งลง 19.5%
