หลังจากศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย (ศอร.) แถลงข่าวปฏิบัติการช่วยเหลือ “หมูป่า 13 คน” ออกจากถ้ำหลวง ปฏิบัติการวันแรก วันที่ 8 กรกฎาคม เริ่มปฏิบัติงานตั้งแต่ 10.00 น. โดยพาหมูป่า 4 คน ส่งโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์
สำหรับปฏิบัติการนำทีมหมูป่าออกจากถ้ำหลวงครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม มีทีมนักดำน้ำทั้งหมด 13 คน ประกอบด้วยนักดำน้ำต่างประเทศ 10 คน และฝ่ายปฏิบัติการทางเทคนิค 3 คน โดยมีหน่วยซีลไทยอีก 5 คน คอยให้ความช่วยเหลือ ในการปฏิบัติงานจริง มีเจ้าหน้าที่ดำน้ำทั้งหมดประมาณ 90 กว่านาย 50 กว่านายเป็นนักดำน้ำจากต่างชาติ อีกประมาณ 40 นาย เป็นนักดำน้ำจากไทย
วันนี้ (9 ก.ค.) ศอร. ประกาศปฎิบัติการพาหมูป่าออกจากถ้ำ ครั้งที่ 2 โดยเริ่มปฏิบัติการตั้งแต่เวลา 11.00 น. โดยหมูป่าคนที่ 5 ออกจากถ้ำ นำส่งโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เวลา 17.05 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊ก เพจ Armytimesthailand ระบุว่าการปฏิบัติการวันนี้ ได้ระดมสุดยอดเจ้าหน้าที่ เเละนักดำน้ำระดับโลก 16 คน ซีล 63 คน บัดดี้ซีล 23 คน สุดยอดแพทย์ทหารบก SMOT 4 นาย ทหารบก 35 คน รวม 141 คน ปฏิบัติภารกิจกู้ชีพหมูป่าในถ้ำหลวง
สำหรับขั้นตอน ปฎิบัติการพาหมูป่ากลับบ้าน เฟซบุ๊คเพจ “ข่าวจริงประเทศไทย” และไลน์ @realnewsthailand ช่องทางการให้ข้อมูลข่าวสารของรัฐบาล รายงาน วิธีการ “ดำน้ำ” ออกจากถ้ำหลวงของทีมหมูป่า
อุปกรณ์ ประกอบด้วย ถังอากาศ และหน้ากากดำน้ำแบบเต็มหน้า
ขั้นตอน การดำน้ำถึงโถง 3
- เจ้าหน้าที่ 2 นาย ประกบเด็ก 1 คน
- เส้นทางไปตามสายนำทางที่หน่วยกู้ภัยได้วางไว้
- เมื่อเจอช่องทางที่แคบมาก จะปลดถังอากาศออกจากหลัง แล้วค่อยๆ กลิ้งถังและพาผู้ร่วมทางออกไปตามช่อง จากโถง 3 ถึงปากถ้ำใช้วิธีการเดินเท้าออกมา
ข้อดีของการเคลื่อนย้าย คือ เร็วและไม่ใช้ทรัพยากรมาก ข้อควรระวัง คือ ต้องใช้ความเชี่ยวชาญระดับสูงมากในการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่และเด็กๆ ก็ต้องมีการฝึกทักษะการดำน้ำและพลังใจที่เข้มแข็งไม่ตื่นตระหนก