นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรระหว่างการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ว่า การอภิปรายของสมาชิก อาจทำให้ประชาชนมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ที่ระบุว่ารัฐผลักภาระราคาค่าแก๊สหุงต้มไปให้ประชาชน โดยเอาส่วนต่างไปให้ผู้ประกอบการนั้น ตนขอชี้แจงว่า เรื่องนี้ต้องมีความเข้าใจอย่างแท้จริง ประเทศไทยมีความรุ่งเรืองตั้งแต่พบก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย ทำให้ไทยใช้แก๊สหุงต้มในราคาที่ต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้านเสมอมา
“ตั้งแต่อดีตจนถึงปี 2557 เราบิดเบือนราคาแก๊สหุงต้มในตลาดโลกมาโดยตลอด โดยรัฐต้องอุดหนุนเงินเข้ากองทุนเชื้อเพลิง ทำให้เป็นภาระด้านงบประมาณให้กับประเทศ โดยในช่วงหลังเราได้มีการปรับราคาให้มีความสมดุลมากขึ้น ราคานี้ทำให้เกิดการลดภาระของกองทุนฯ”
นายสนธิรัตน์ กล่าวต่อว่า การที่พูดกันว่า ไทยมีก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย แต่ประชาชนกลับได้ใช้แก๊สหุงต้มในราคาแพงนั้น ตนขอยืนยันว่า หากนำราคาไปเปรียบกับประเทศในอาเซียนแล้ว จะพบว่าประเทศไทยใช้แก๊สหุงต้มในราคาที่ถูกกว่า
“ที่มีผู้กล่าวว่า เมื่อก๊าซธรรมชาติมาสู่โรงแยกก๊าซของบริษัท ปตท. ทำให้ส่วนต่างที่เกิดขึ้นไหลเข้าสู่กำไรของปตท.นั้น ผมยืนยันว่ากลไกที่กระทรวงพลังงานได้ดำเนินการไป ส่วนต่างที่เกิดขึ้นรัฐได้เก็บส่วนต่างเข้ากองทุนฯ เพื่อนำเงินส่วนต่างนี้มาชดเชย เงินดังกล่าวไม่ได้เข้าสู้บริษัท ปตท.แต่นำมาชดเชยเพื่อความสมดุลด้านพลังงานของประเทศไทย”
