Economics

‘อนุทิน’ ตอก! อย่ายกเรื่อง ‘พื้นที่’ มาล้มไฮสปีดทั้งโครงการ

“อนุทิน” ย้ำ ทุกฝ่ายต้องทำตามเงื่อนไขการประมูล อย่ายกเรื่อง “พื้นที่” มาเป็นเงื่อนไขล้ม “ไฮสปีด 3 สนามบิน” ทั้งโครงการ ยืนยันเดินหน้าเซ็นสัญญา 25 ต.ค. แน่นอน

a1 6

จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และกลุ่มกิจการร่วมค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร (CPH) ผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง-อู่ตะเภา-สุวรรณภูมิ  ได้ทำสัญญาเพิ่มเติมว่า การรถไฟฯ จะส่งมอบพื้นที่กว่า 80% ให้เอกชนภายใน 2 ปีนั้น

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีผู้กำกับดูแลโครงการดังกล่าว ระบุว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดของข่าวที่เกิดขึ้น แต่ตามหลักการคือ ถ้าทั้ง 2 ฝ่ายปฏิบัติตามเอกสารยื่นข้อเสนอโครงการ (Request for Proposal : RFP) ซึ่งเป็นสัญญาระหว่างผู้จ้างกับผู้รับจ้าง ปัญหาจะจบทันที

ส่วนใครจะทำอะไร ถ้าเป็นประโยชน์กับบ้านเมือง และไม่ขัดกับ RFP ที่กล่าว สามารถทำได้แน่นอน ทั้งนี้ หน้าที่ของคณะรัฐมนตรี (ครม.) คือ การเห็นชอบเรื่องต่างๆ และกว่าจะมาถึงตรงนั้น ทุกฝ่ายต้องทำให้ถูกต้องตามสัญญา

ด้านข้อเรียกร้องให้ส่งมอบพื้นที่ครบ 100% ขอให้ย้อนกลับไปอ่านสัญญาว่า กำหนดการส่งมอบไว้เท่าไร ภาครัฐทำได้หรือไม่ ถ้าทำสำเร็จฝ่ายเอกชนก็ต้องมาทำงาน และระหว่างก่อสร้างภาครัฐจะทยอยส่งพื้นที่ให้ แต่ถ้าทุกฝ่ายทำตามเงื่อนไขแล้ว เอกชนยังได้รับผลกระทบในการก่อสร้าง ภาครัฐจะหาทางออกให้ ขอให้สบายใจได้

fig 09 05 2019 10 22 11

“แต่อย่าเอาเรื่องการส่งมอบพื้นที่ไปล้มโครงการทั้งหมด” เนื่องจากในความเป็นจริงของการทำงาน ตลอดระยะเวลาก่อสร้าง ต้องมีเรื่องให้ขยายเวลาอยู่แล้ว เช่น น้ำท่วม การขึ้นค่าแรง เหล่านี้ใช้เป็นเหตุผลในการขยายเวลาได้ ภาครัฐมีเหตุผล และพร้อมอำนวยความสะดวกแก่ฝ่ายเอกชน แต่ขอให้ทำตาม RFP โดยตอนนี้ได้คณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย(บอดร์ด ร.ฟ.ท.) ชุดใหม่แล้ว ไม่มีล้มการเซ็นสัญญาก่อสร้างวันที่ 25 ตุลาคมนี้อย่างแน่นอน

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า การพิจารณาเอกสารร่วมลงทุนในโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ยังยึดตามแนวทางที่กระทรวงคมนาคม และนายอนุทิน ชาญวีรกูล หารือร่วมกันมาตลอด คือการปฏิบัติตามกรอบ RFP เป็นหลัก ดังนั้นหากดำเนินการตามนี้ ก็จะไม่มีการยกเลิกสัญญา

Avatar photo