วันก่อน “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเปรยๆ ไว้ว่า ตั้งแต่เข้ามาดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา ยังไม่ได้โยกย้ายใครเลย !
ท่านว่า “ไม่อยากให้เสียกำลังใจ” แบบมาปุ๊ปย้ายปั๊บ แต่หลังจากนี้จะประเมินเป็นรายบุคคลแล้ว ถามท่านว่าใช้วิธีไหน ท่านว่า “มีวิธีดูละกัน”
มาแล้วกับการประเมินของเขา นับเบอร์วันของการโยกย้าย ประเดิมด้วย “เปรมฤทัย วินัยแพทย์” จากอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงพลังงาน และแต่งตั้ง “สราวุธ แก้วตาทิพย์” รองปลัดกระทรวงพลังงาน มาเป็นอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติแทน โดยเสนอให้ครม.ไฟเขียววันนี้ (15 ต.ค.)
สาเหตุไม่ต้องคาดเดาให้เสียเวลา “เรื่องการรื้อถอนแท่นผลิตปิโตรเลียม” เป็นเหตุ ว่าด้วยการทำงานไม่เข้าตากันระหว่างสไตล์ทีมผู้บริหารชายมี “กุลิศ สมบัติศิริ” ปลัดกระทรวงพลังงาน ที่สนธิรัตน์ ให้นั่งเป็นหน้าเสื่อบ้าง กำเผือกร้อนบ้างในทุกเรื่อง ว่ากันว่า ทีมชายกับสไตล์ผู้บริหารหญิง ไปด้วยกันไม่ได้
สไตล์แตกต่างอาจหมายถึงผลลัพธ์แตกต่างกันไปด้วย ด้านหนึ่ง กฎหมายยืนหนึ่ง กฎหมายว่าอย่างไรตามนั้น กฎหมายระบุให้ผู้รับสัมปทานรายเดิม ต้องรับภาระค่ารื้อถอนทั้งหมดภายหลังสิ้นสุดสัญญาสัมปทานก็ต้องอย่างงั้น และการเจรจาเป็นไปอย่างระมัดระวัง อาจช้าในสายตาทีมชาย ฝ่ายหญิงระวังสูง เพราะ เชฟรอน ยังถือตั๋วฟ้องอนุญาโตตุลาการ หากเจรจาไม่สำเร็จอย่างใจ
ขณะที่ฟากการเมืองต้องการ ความยึดหยุ่น และต้องการความเร็ว แถมหวังผลสูงกับการเจรจาเรื่องการรื้อถอนแท่นผลิตปิโตรเลียมแหล่งเอราวัณ ภายหลังสิ้นสุดอายุสัมปทานในเดือนเมษายน 2565 ที่จะมีเวลาไม่เกิน 180 วันเท่านั้น ในการเจรจากับเชฟรอน ภายหลังถอนกระบวนการฟ้องอนุญาโตตุลาการไว้ชั่วคราวก่อน
งานนี้ใหญ่พอตัว เพราะจะรวบเอาอีก 2 ษริษัทยักษ์ เข้ามาอยู่ในโต๊ะเจรจาด้วยเช่นเดียวกัน ทั้ง มิตซุย ออยล์ เอ็กซพลอเรชั่น จำกัด ที่ถือหุ้นร่วมกับเชฟรอนในแหล่งเอราวัณ และ โททาล อีแอนด์พี ไทยแลนด์ จำกัด ที่ถือหุ้นในแหล่งบงกช ซึ่งหมดอายุสัมปทานในปี 2566
สนธิรัตน์ เคยเอ่ยปากชมเปาะไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า การทำงานหนักของกุลิศ ปลัดกระทรวงพลังงาน และสราวุธ รองปลัดกระทรวงพลังงาน ทำให้ยักษ์ใหญ่อย่างเชฟรอน คอร์ปอเรชั่น สหรัฐ บริษัทแม่ ยอมระงับกระบวนการอนุญาโตตุลาการ
และหากเจรจา “สำเร็จ” ทุกอย่างลงเอ่ยด้วยดีนั่นหมายถึ “ผลงานใหญ่” คุยได้ ดังนั้นการสรรหาคนทำงานเข้าตาเข้าใจ จึงสำคัญที่สุดสำหรับเดิมพันครั้งนี้
งานนี้จบ กรมนี้ยังมีงานใหญ่รออยู่อีกหลายงาน ที่จะยกมาเป็นผลงานต่อเนื่อง โดยเฉพาะเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบใหม่
การโยกย้ายครั้งนี้คงพอจะเห็นเค้าลางว่า โยกย้ายนอกฤดูในฤดูมาได้หมด ในยุคนี้ ติดตาม “เชือดเงียบๆ นับเบอร์ 2” ว่าจะเป็นใคร มาดูว่าชาวราศีมีน อย่างท่านสนธิรัตน์ จะทำอะไรที่คาดเดาได้ยากตามธาตุหรือไม่ “ระวัง !”
