“กระทรวงพาณิชย์”วิเคราะห์ผลกระทบต่อไทย กรณีอังกฤษออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (เบร็กซิท) แบบไร้ข้อตกลง เผยจะมีการใช้มาตรการทางภาษีชั่วคราว 1 ปี เอื้อประโยชน์ส่งออกไทย สินค้า 87% ได้รับยกเว้นภาษีอีก 13% ภาษีเท่าเดิมหรือลดลง และเสียภาษีเท่ากับคู่แข่งที่ทำขเอฟทีเอ หรือได้จีเอสพี แนะผู้ประกอบการรีบหาทางเพิ่มยอดส่งออก แต่อย่าลืมวางแผนรับมือเรื่องโลจิสติกส์ที่อาจติดขัด
สำนักงานนโยบาย และยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) ได้วิเคราะห์สถานการณ์เบร็กซิท โดยประเมินว่าหากอังกฤษออกจากอียูแบบไม่มีข้อตกลงตามเส้นตายวันที่ 31 ตุลาคมนี้ จะส่งผลกระทบด้านบวกต่อไทยมากกว่าในทางลบ
ไทยจะได้รับประโยชน์จากมาตรการทางภาษีชั่วคราว 1 ปี ที่อังกฤษได้กำหนดขึ้น คือ สินค้าของไทยประมาณ 87% ของสินค้าทั้งหมดที่ส่งออกไปยังอังกฤษจะได้รับการยกเว้นภาษี และอีก 13% จะได้รับอัตราภาษีเท่าเดิมหรือลดลงจากที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน หรือเดิมสินค้าไทยเสียเปรียบคู่แข่งที่ทำความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) กับอังกฤษหรือได้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) ก็จะถูกเก็บภาษีเท่ากัน
สินค้าที่ไทยจะได้รับประโยชน์ด้านภาษีที่จะคงเดิมหรือลดลง เช่น ช้าว เนื้อสัตว์ (ไก่ เป็ด หมู แกะ) น้ำตาล เซรามิก รถยนต์ เนย ซีส และสินค้าที่ภาษีเท่ากับคู่แข่งที่ทำเอฟทีเอและได้จีเอสพี เช่น อัญมณี เครื่องนุ่งห่ม เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น ซึ่งผู้ส่งออกไทยควรจะศึกษา และวางแผนเพื่อเตรียมผลักดันการส่งออก เพราะสินค้าไทยจะแข่งขันได้ดีขึ้น
ขณะเดียวกัน มีสินค้าบางตัวที่จะได้ประโยชน์จากการที่อังกฤษจะยกเลิกการใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (เอดี) กับไทย เบื้องต้นมี 4 รายการ คือ ข้าวโพดหวาน ตาข่ายใยแก้ว รถลากพาเล็ท และข้อต่อท่อเหล็กอบเหนียวสลักเกลียว
สำหรับแผนการรับมือ ผู้ส่งออกไทยต้องเตรียมความพร้อมในเรื่องโลจิสติกส์และการขนส่งสินค้าไปยังอังกฤษ เพราะปัจจุบันไทยส่งออกไปอังกฤษผ่านท่าเรือเนเธอร์แลนด์และฝรั่งเศสเป็นจำนวนมาก ทำให้ต่อไปไทยต้องส่งออกตรงไปยังอังกฤษมากขึ้น จึงต้องเร่งศึกษาเส้นทางโลจิสติกส์ และหาผู้นำเข้าใหม่ๆ ในอังกฤษเตรียมไว้ด้วย
ส่วนในด้านการลงทุน จะเป็นโอกาสดีที่ไทยจะดึงดูงนักลงทุนจากอียูและอังกฤษให้เข้ามาลงทุนในไทยได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เช่น ยานยนต์สมัยใหม่ การบินและโลจิสติกส์ นวัตกรรมด้านเกษตรและอาหาร ดิจิทัล อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ และหุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรม
อย่างไรก็ตาม ไทยควรจะมองหาทางลู่ทางในการขยายการค้าและการลงทุนหรือกระจายฐานลูกค้าจากอียูและอังกฤษไปยังประเทศอื่นๆ เพิ่มขึ้น เช่น เนเธอร์แลนด์ ที่มีระบบการปกครองเสรี ระบบโลจิสติกส์ดี มีท่าเรือใหญ่ที่รอตเตอร์ดัม หรือประเทศแถบยุโรปตะวันออก เพราะค่าแรงงานถูก รวมทั้งต้องเตรียมเครื่องมือประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนในภาวะที่ค่าเงินผันผวน เพื่อรักษารายได้ในรูปเงินบาทให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
