ในกระบวนการฝ่ายผลิตของบริษัทที่ทำธุรกิจด้านยานั้น จะทราบดีว่าการได้รับสารเคมีเพียงน้อยนิดแต่สะสมในร่างกายเป็นระยะเวลานานย่อมมีผลให้ร่างกายเปลี่ยนแปลงไปทีละน้อย ดังนั้นหากไลน์ผลิตสินค้าตัวใดที่พนักงานต้องสัมผัสกับสารเคมีที่มีผลต่อร่างกาย เช่น ฮอร์โมนต่างๆ จึงมีการป้องกันอย่างรัดกุม พนักงานต้องสวมชุมคล้ายกับชุดท่องอวกาศก็ว่าได้ แต่ในชีวิตจริงนั้นเราไม่สามารถใส่ชุดอวกาศเดินไปไหนมาไหนได้เช่นการทำงานในห้องแลบ
การเผชิญกับมลพิษ โดยเฉพาะ PM2.5 ที่กำลังสร้างความกังวลให้ผู้คนในขณะนี้จึงเป็นเรื่องหลีกเลี่ยงได้ยาก ถึงจะมีอนุภาคเล็กแต่ฝุ่นจิ๋ว PM2.5 เป็นมลพิษทางอากาศ ที่องค์กรอนามัยโลก (WHO) ได้จัดให้อยู่กลุ่มที่ 1 ของสารก่อมะเร็ง โชคร้ายที่ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากมลพิษในอากาศก่อนวัยอันควรมากถึง 50,000 รายต่อปี ปัจจุบันประชากรในเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพมหานคร ได้เผชิญกับฝุ่นที่มีสารพิษที่มีองค์ประกอบของเคมีซ่อนอยู่ ทั้งแคดเมียม ปรอท โพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดคาร์บอน โดยอนุภาคของ PM 2.5 มีขนาดที่เล็กมากจนสามารถเข้าสู่กระแสเลือดได้ และหากสะสมในร่างกายระยะเวลานานจะก่อให้เกิดโรคได้ เช่น มะเร็งในปอด โรคหัวใจขาดเลือด
วิธีป้องกัน ฝุ่น PM2.5 เข้าสู่ร่างกาย เป็นที่ทราบกันดีว่าเราต้องหลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยฝุ่นแต่นั่นเป็นวิธีที่ทำได้ยากโดยเฉพาะในเมืองหลวงที่มีปริมาณรถยนต์หนาแน่น การหลีกเลี่ยงหรือลดปัจจัยที่ทำให้เกิดฝุ่นจึงเกิดขึ้นยาก
อย่างไรก็ตามทางรอดของผู้คนในเมืองหลวงก็ยังมีอยู่อีกค่อนข้างมากและทำได้ไม่ยาก ด้วยการดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงมีภูมิคุ้มกัน ซึ่งวิธีที่ทำได้ง่ายสุด เริ่มจากการรับประทานอาหารที่มีสรรพคุณช่วยในการดูดซับสารพิษ ต่างๆนั่นเอง เช่น ผักตระกูลกะหล่ำ ได้แก่ บร็อกโคลี กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก คะน้า กวางตุ้ง ผักกาดขาว ที่มีสารชัลโฟราเฟนมีสรรพคุณช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย จึงลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งปอดจากฝุ่นพิษ และยังช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงด้วย ส่วนผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง โดยเฉพาะมะขามป้อม ถือเป็นอีกหนึ่งผลไม้ไทยที่น่าสนใจเพราะมีสรรพคุณช่วยลดผลกระทบจากก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ที่เป็นกำเนิดของ PM 2.5 นอกจากนี้ อาหารประเภทปลาและอาหารทะเล ที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 สูง ก็มีสรรพคุณช่วยเสริมสร้างผนังเซลล์ในร่างกายจึงอาจมีส่วนช่วยดูแลสุขภาพจากผลกระทบของฝุ่นพิษได้
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่มีข้อจำกัดในการเลือกอาหารรับประทานในแต่ละวัน โดยเฉพาะคนทำงานรุ่นใหม่ที่ต้องเร่งรีบในการใช้ชีวิตประจำวัน ทำให้ไม่มีเวลาในการคัดสรรอาหารที่มีประโยชน์มากนัก ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารก็ถือเป็นอีกตัวช่วยหนึ่งที่จะเข้ามาตอบโจทย์ โดยสามารถเลือกรับประทานประเภทวิตามิน เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้หลากหลายตามประเภทของวิตามินชนิด เช่น วิตามิน เอ ช่วยลดการอักเสบและต้านการเกิดอนุมูลอิสระ กลุ่มวิตามิน บี มีส่วนช่วยลดความผิดปกติของ DNA ซึ่งเกิดจากการสูดฝุ่น วิตามิน ซี ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันเซลถูกทำลายและเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน วิตามิน ดี เพิ่มภูมิคุ้มกันและลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งปอด
นอกจากนี้ ยังพบว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากเห็ดหลินจือถือว่าเป็นอีกตัวช่วยหนึ่งที่น่าสนใจ เนื่องจากเห็ดหลินจือมีสารสำคัญ สามารถขจัดอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุของการเกิดเซลล์เนื้อร้าย และช่วยให้เม็ดเลือดขาวเข้าไปสู้ทำลายเซลล์เนื้อร้ายได้ดียิ่งขึ้น
พืชผักของไทย และสมุนไพรไทยหลายชนิดถือว่ามีประโยชน์มหาศาล เป็นของดีใกล้ตัวที่หลายๆคนอาจจะมองข้ามไป แต่พืชสมุนไพรไทยนั้น ถือว่ามีความน่าสนใจอย่างมาก เพราะมีมูลค่าการการตลาดในปัจจุบันสูงถึง 1.8 แสนล้านบาท ซึ่งหากได้รับการสนับสนุนและต่อยอดในการพัฒนาไปสู่อาหารเสริมเพื่อต่อต้านสารพิษหรือมลภาวะต่างๆด้วยงานวิจัย จะทำให้สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับสมุนไพรไทยได้ถึง 10 เท่าเชื่อว่าจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศในวงกว้างครับ
ดร.สิทธิชัย แดงประเสริฐ ประธานกรรมการบริหาร
บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
