Properties

‘แกรนด์โฮม’ ปั้นแบรนด์ใหม่ ‘ชุดครัว’ ปรับเปลี่ยนได้

แกรนด์โฮมจับเทรนด์คนรุ่นใหม่ เปิดแบรนด์ “THE COMMON kitchen” เน้นเรียบง่าย เอกลักษณ์เฉพาะตัว พร้อมฟังก์ชั่นปรับเปลี่ยนได้ตามการใช้งาน เจาะกลุ่มลูกค้าคอนโดมิเนียม อะพาร์ตเมนท์ราคา 3 ล้านบาทขึ้นไป

คุณภูมิระวี ใจดี
ภูมิระวี ใจดี

นายภูมิระวี ใจดี ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาการออกแบบงานชุดครัวและเฟอร์นิเจอร์ บริษัท แกรนด์โฮมมาร์ท จำกัด เปิดเผยว่า จากพฤติกรรมการใช้ห้องครัวของคนไทย โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่เปลี่ยนไป การใช้ชีวิตในคอนโดมิเนียมหรือ อะพาร์ตเมนท์ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยอย่างจำกัด การเลือกฟังก์ชั่นหรือขนาดของห้องครัวจึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยชุดครัวจึงต้องมีขนาดที่กระทัดรัดแต่ฟังก์ชั่นครบ

จากแนวโน้มดังกล่าว บริษัทจึงได้เปิดตัวแบรนด์ชุดครัวน้องใหม่ล่าสุด “THE COMMIN kitchen” โดยออกแบบมาเพื่อจับกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบความเรียบง่าย หรือเข้าใจง่ายในการเลือกครัว แต่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครบถ้วน พร้อมฟังก์ชั่นแบบโมดูลาร์ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามการใช้งาน รวมถึงมีความหลากหลายทั้งในตัวสี และตัวอุปกรณ์ใช้งานที่หลากหลายให้เลือก เพื่อให้ลูกค้าเหมือนต่อจิ๊กซอว์ครัวในแบบของตัวเองให้สมบูรณ์แบบมากที่สุด

Product 2

ทั้งนี้ แผนการตลาดในเบื้องต้น จะเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่อาศัยในคอนโดมิเนียมหรืออะพาร์ตเมนท์ที่มีราคาตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป หรือในโซนย่านธุรกิจ (CBD) เป็นหลัก รวมถึงกลุ่มลูกค้าที่กำลังมองหาโซลูชั่นห้องครัวที่ราคาไม่สูง ติดตั้งรวดเร็ว ไม่ต้องการเสียเวลามากนักกับการออกแบบและปรับสภาพพื้นที่ภายในบ้าน ไปจนถึงต้องการเลี่ยงปัญหาฝุ่นมลพิษ เนื่องจากจะสร้างตามแบบที่ลูกค้าต้องการให้แล้วเสร็จ ก่อนจะถูกนำเข้าไปประกอบติดตั้งด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญ โดยจะสามารถจบงานได้ไม่เกิน 2 วัน

นอกจากนี้ ชุดครัวนี้ยังเหมาะกับกลุ่มลูกค้าที่กำลังคิดจะรีโนเวทบ้าน และต้องการชุดครัวที่มีดีไซน์ มีรสนิยม ไม่จำเจกับครัวรูปแบบเดิมๆ โดยราคาเริ่มต้นของชุดครัว THE COMMON kitchen จะอยู่ที่เมตรละ 17,000 บาท หรือประมาณ 50,000 บาทต่อชุด

Product 1 1

สำหรับการเปิดบูธในงานบ้านและสวนแฟร์ 2019 ระหว่าง 18-27 ตุลาคม 2562 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ได้นำชุดครัว THE COMMON kitchen ไปร่วมจัดแสดง ภายใต้คอนเซ็ปต์เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ของคน 3 คาแรคเตอร์ที่มีรสนิยมที่แตกต่างกัน ได้แก่ ผู้ที่ชื่นชอบความเป็น Minimalist ที่เน้นความเรียบง่ายแต่ภูมิฐาน, Industrialist ที่ดูสมาร์ท เท่ และ Maximumlist ที่ใช้สีสันเพิ่มชีวิตชีวา โดยคาดว่าจะมียอดขายภายในงานและตามหลังงานรวมกันแล้วไม่ต่ำกว่า 6-7 ล้านบาท ซึ่งภายในงานฯ น่าจะขายได้ไม่ต่ำกว่า 50 ชุด

Avatar photo