ตลาดหุ้นเอเชียซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (11 ต.ค.) ปรับตัวสูงขึ้น หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ระบุว่า จะพบกับรองนายกรัฐมนตรีหลิว เหอ ของจีน ผู้นำคณะเจรจาการค้าจากแดนมังกร
ดัชนีนิกเคอิ ตลาดหุ้นโตเกียวญี่ปุ่น เคลื่อนไหวล่าสุดปรับขึ้น 209.27 จุด หรือ 0.97% ที่ 21,761.25 จุด ดัชนีฮั่งเส็ง ของฮ่องกง เพิ่มขึ้น 350.77 จุด หรือ 1.36% ที่ 26,058.70 จุด ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ ลดลง 1.40 จุด หรือ 0.05% ที่ 2,946.31 จุด และดัชนีสเตรทไทมส์ ของสิงโปร์ ขยับขึ้นมา 15.50 จุด หรือ 0.50% ที่ 3,104.98 จุด
ขณะที่ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ของสหรัฐ ปิดซื้อขายเมื่อคืนนี้ (11 ต.ค.) ที่ 26,496.67 จุด เพิ่มขึ้น 150.66 จุด หรือ 0.57% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 2,938.13 จุด เพิ่มขึ้น 18.73 จุด หรือ 0.64% และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 7,950.78 จุด เพิ่มขึ้น 47.04 จุด หรือ 0.60%
นักลงทุนกลับเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้ง หลังเริ่มมีความหวังมากขึ้นว่า การเจรจาการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ จะได้ผลลัพธ์ในทิศทางขึ้น ซึ่งการที่ทรัมป์ ระบุว่า จะเจอกับเหอนั้น ทำให้เกิดความหวังว่า อาจมีการประกาศข้อตกลงการค้า หรืออย่างน้อยจะบรรลุข้อตกลงกันบางส่วน หลังเสร็จสิ้นการเจรจาในวันนี้
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวบอกด้วยว่า การเจรจาเป็นไปดีกว่าที่คาดการณ์กันไว้ และเจ้าหน้าที่หอการค้าอเมริกัน ที่ได้ฟังบรรยายสรุปจากทั้ง 2 ฝ่าย ก็บอกถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการบรรลุข้อตกลงกันเรื่องค่าเงินในสัปดาห์นี้
ทางด้านราคาน้ำมันในตลาดเอเชีย ยังปรับตัวสูงขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากที่โอเปค ระบุว่า อาจมีการดำเนินมาตรการเพื่อรักษาสมดุลของตลาดน้ำมัน รวมถึง การลดปริมาณผลิตน้ำมันมากกว่าเดิม
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียท เพิ่มขึ้นมา 0.43% ที่ 53.78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับขึ้น 0.46% ที่ 59.37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
