“กรุงเทพโพลล์” เผยประชาชนส่วนใหญ่พอใจมาตรการ “ชิมช้อปใช้” ชี้ช่วยให้การเงินคล่องตัวขึ้น หนุนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบนี้อีก
หลังจากมาตรการ ชิม ช้อป ใช้ มีผู้ลงทะเบียนครบจำนวนตามเป้าหมาย กรุงเทพโพลล์โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ จึงได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “ความเห็นของประชาชนต่อมาตรการ ชิม ช้อป ใช้” โดยเก็บข้อมูลกับประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศจำนวน 1,184 คน พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ 65.3% ไม่ได้เข้าร่วมลงทะเบียนมาตรการ ชิม ช้อป ใช้ ขณะที่ 34.7% ได้เข้าร่วมลงทะเบียน
ประชาชนที่เข้าร่วมลงทะเบียนมาตรการ ชิม ช้อป ใช้ ส่วนใหญ่ 64.5% สามารถลงทะเบียนได้ ขณะที่ 35.5% ไม่สามารถลงทะเบียนได้ โดยในจำนวนนี้ 14.7% ให้เหตุผลว่าต้องรอคิว รองลงมา 13.0% ให้เหตุผลว่าครบ 1 ล้านคนต่อวันแล้ว และ 9.5% ลงแล้วไม่ผ่านเกณฑ์
โดยผู้ที่สามารถลงทะเบียนได้เลือกใช้เงินในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมากที่สุดคิดเป็น 17.7% รองลงมาคือภาคกลางคิดเป็น 16.2% และภาคเหนือคิดเป็น 15.5% โดยส่วนใหญ่ให้เหตุผลที่เลือกจังหวัดไปใช้เงินมาตรการ ชิม ช้อป ใช้คือ เป็นจังหวัดที่ใกล้ที่อยู่อาศัยคิดเป็น 52.2% รองลงมาคือ เป็นจังหวัดที่อยากไปท่องเที่ยวคิดเป็น 22.6% และเป็นจังหวัดที่ทำงานอยู่คิดเป็น 18.5%
ทั้งนี้เมื่อถามว่าจะนำเงินที่ได้ไปใช้จ่ายในเรื่องใด ส่วนใหญ่ 71.4% จะนำไปซื้อของใช้ภายในบ้าน รองลงมา 50.8% จะนำไปซื้อของกิน ไปใช้ในร้านอาหาร และ 10.3% จะนำไปใช้เป็นค่าโรงแรม ค่าที่พัก
เมื่อถามความเห็นต่อมาตรการ ชิม ช้อป ใช้ ทำให้ตัวท่านและครอบครัวสามารถไปเที่ยว ไปกิน ไปช้อป ใช้เงินได้คล่องตัวขึ้นมากน้อยเพียงใด ส่วนใหญ่ 65.6% เห็นว่าช่วยให้ใช้เงินได้คล่องตัวขึ้นค่อนข้างมากถึงมากที่สุด ขณะที่ 34.4% เห็นว่าค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด
เมื่อถามว่าอยากให้ภาครัฐมีการขยายเวลาและเพิ่มจำนวนผู้ลงทะเบียน มาตรการ ชิม ช้อป ใช้ หรือไม่ ส่วนใหญ่ 55.7% อยากให้เพิ่มเพราะจะได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ขณะที่ 44.3% ไม่อยากให้เพิ่มเพราะคิดว่าไม่ช่วยอะไรเปลืองภาษีประชาชน
ส่วนความเห็นต่อมาตรการ ชิม ช้อป ใช้ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว ช่วงปลายปีได้มากน้อยเพียงใด ส่วนใหญ่ 53.1% เห็นว่าจะช่วยกระตุ้นได้ค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด ขณะที่ 46.9% เห็นว่าจะช่วยได้ค่อนข้างมากถึงมากที่สุด
สุดท้ายเมื่อถามว่า เห็นด้วยหรือไม่หากภาครัฐจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แบบนี้อีกในปีหน้า ส่วนใหญ่ 50.4% เห็นด้วย ขณะที่ 40.2% ไม่เห็นด้วย และ 9.4% ไม่แน่ใจ