Technology

‘ซัมซุง’ เร่งเครื่องลุยโซลูชั่นครบวงจร เจาะ ‘องค์กรใหญ่-รายย่อย’

ซัมซุง ร่วมปลดล็อกธุรกิจไทย ส่งโซลูชั่นครบครัน หนุนอุตสาหกรรม ธุรกิจไทย ขับเคลื่อนสู่ นิวอีโคโนมี ด้วยการจับมือพาร์ทเนอร์ผู้ให้บริการโซลูชั่นระดับโลก เผยแนวโน้มปีหน้ายังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยการวางแผนบุกตลาดธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม

ดร.มารุต มณีสถิตย์

ดร.มารุต มณีสถิตย์ ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจลูกค้าองค์กร ธุรกิจโทรคมนาคมและไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดลูกค้าองค์กรของซัมซุงในปีที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตสูงขึ้น 27% เมื่อเทียบกับปี 2560 โดยซัมซุงครองส่วนแบ่งตลาดลูกค้าองค์กรเป็นอันดับหนึ่งถึง 50% แบ่งเป็นแท็บเล็ต 35% และสมาร์ทโฟน 65% โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนเซกเมนต์พรีเมี่ยมที่มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า สะท้อนให้เห็นว่าลูกค้าองค์กรเปลี่ยนมาใช้สมาร์ทโฟนระดับพรีเมี่ยมจากซัมซุงกันมากขึ้น

ทั้งนี้ ปัจจัยความสำเร็จในปีที่ผ่านมาเกิดขึ้นจากการบุกตลาดอย่างหนักของซัมซุง และความร่วมมือที่แข็งแกร่งกับผู้ให้บริการเครือข่ายทุกราย และเป็นผลมาจากการวิจัยและพัฒนาสมาร์ทโฟนให้เหมาะสมกับรูปแบบการใช้งานที่หลากหลายเพื่อตอบรับความต้องการของธุรกิจทุกขนาดและทุกอุตสาหกรรม

สำหรับกลยุทธ์ของปีนี้ จะอยู่ภายใต้แนวคิด “Unlock Next Mobile Economy” หรือ การที่โมบายล์เทคโนโลยีถูกผนึกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งเป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่องค์กรต้องคำนึงถึงเพื่อเตรียมรับมือกับความท้าทายใหม่ๆ เนื่องจากสมาร์ทโฟนไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือสื่อสารแค่อย่างเดียวอีกต่อไป แต่ยังสามารถนำมาใช้ในธุรกิจด้านอื่นๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับองค์กรด้วย

ดร.มารุต มณีสถิตย์2

ปัจจุบันนี้ ซัมซุงนับว่าเป็นแบรนด์ที่มีความพร้อมมากที่สุดในการส่งเสริมให้องค์กรธุรกิจสามารถปรับตัวและต่อยอดความสร้างสรรค์ในการทำงานเพื่อเข้าสู่ยุคโมบายล์อย่างเต็มขั้น โดยมี 3 ปัจจัยหลัก ประกอบด้วย 1. ความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี 2. มีความพร้อมในด้านโมบายล์โซลูชั่นและผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายสำหรับองค์กร 3. ทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ระดับโลกเพื่อให้ธุรกิจมีแพลตฟอร์มที่เหมาะสม ช่วยกระตุ้นให้เกิดผลลัพธ์ทางธุรกิจในยุคที่มือถือมีความสำคัญมากที่สุดได้

พร้อมกันนี้ ซัมซุงจับมือกับพาร์ทเนอร์ระดับโลก เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นตอบสนองความต้องการของภาคธุรกิจ อาทิ ร่วมกับ Simplr โซลูชั่นด้านโลจิสติกส์แบบครบวงจร สำหรับอุตสาหกรรมโรงงานและธุรกิจค้าปลีก, Wacom โซลูชั่นที่ให้บริการระบบลายเซ็นอิเลคโทรนิคส์สำหรับการยืนยันตัวตน, SmartPesa ผู้ให้บริการโซลูชั่นสำหรับชำระเงินที่หลากหลายเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจต่างๆ เป็นต้น เพื่อร่วมกันผลักดันภาคธุรกิจในการปรับตัวเข้าสู่เศรษฐกิจใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยโมบายล์เทคโนโลยี

“ในปีที่ผ่านมาเห็นได้อย่างชัดเจนว่าองค์กรขนาดใหญ่ในประเทศไทยได้ปรับตัวเข้าสู่ยุค Next Mobile Economy เรียบร้อยแล้ว โดยกลุ่มลูกค้าองค์การธุรกิจของซัมซุงที่มีการนำโมบายล์เทคโนโลยีไปใช้งานสูงสุดตามลำดับ ได้แก่ การเงินธนาคาร ธุรกิจค้าปลีก โลจิสติกส์ หน่วยงานภาครัฐ และในเร็วๆ นี้ เรายังวางแผนที่จะบุกตลาดธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMB) ต่อไปอีกด้วย”ดร.มารุตกล่าว

Avatar photo