World News

‘หุ้นเอเชีย’ ร่วงตามวอลล์สตรีท ไร้สัญญาณ ‘สหรัฐ-จีน’ คลี่คลายข้อพิพาท

ตลาดหุ้นเอเชีย ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (9 ต.ค.) เคลื่อนไหวในแดนลบ หลังข้อพิพาทที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของสหรัฐ และจีนเกี่ยวกับนโยบายการค้า และการต่างประเทศ ทำให้แทบไม่มีความหวังที่ความขัดแย้งของ 2 ฝ่ายจะยุติลง สร้างแรงกดดันต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก

190903asia

ดัชนีนิกเคอิ ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ของญี่ปุ่น เคลื่อนไหวล่าสุดลดลง 157.59 จุด หรือ 0.73% ที่ 21,430.19 จุด ดัชนีฮั่งเส็ง ของฮ่องกงขยับลงมา 74.59 จุด หรือ 0.29% ที่ 25,818.81 จุด ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ ของจีน ลดลง 0.92 จุด หรือ 0.03% ที่ 2,912.65 จุด  และดัชนีสเตรทไทมส์ ของสิงคโปร์ลดลง 11.30 จุด หรือ 0.36% ที่ 3,099.55 จุด

ขณะที่ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ของสหรัฐ ปิดซื้อขายเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) ที่ 26,164.04 จุด ร่วงลง 313.98 จุด หรือ 1.19% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 2,893.06 จุด ลดลง 45.73 จุด ลดลง1.56% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 7,823.78 จุด ลดลง 132.52 จุด หรือ 1.67%

ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 2 ปี ลดลงมากขึ้นในเอเชีย หลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาส่งสัญญาณถึงการลดดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น และการกลับเข้าไปซื้อพันธบัตรในตลาดอีกครั้ง เพื่อบรรเทาการพุ่งขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในตลาดการเงินเมื่อเร็วๆ นี้

นักวิเคราะห์ชี้ว่า ตลาดกำลังเต็มไปด้วยความวิตก และขาดความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากที่ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐ กับจีน ไม่มีสัญญาณว่าจะยุติลง ทั้งยังมีความไม่แน่นอนมากขึ้นว่า เฟดกำลังเดินหน้านโยบายไปในทิศทางใด

ราคาน้ำมันในเอเชียปรับตัวลงเช่นกัน หลังจากที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ประกาศควบคุมการออกวีซ่าให้กับเจ้าหน้าที่จีน นอกเหนือจากที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ ขึ้นบัญชีดำบริษัท และหน่วยงานของจีนเพิ่มอีก 28 ราย

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียท ในเอเชีย ล่าสุดปรับลงมา 0.42% ที่ 52.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากการคาดการณ์ว่าความต้องการน้ำมันในอนาคตจะลดลง เพราะเศรษฐกิจสหรัฐ และจีน ชะลอการเติบโตลง

Avatar photo